
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่บ้านช้างตระกูลแสน “ดูช้างดูดอย” อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เกิดเหตุการณ์แห่งความปลาบปลื้ม เมื่อ “พังมีนา” หรือ พังวันช้างไทย แม่ช้างวัยกำลังสมบูรณ์ อายุ 18 ปี ได้ให้กำเนิดลูกช้างเพศผู้ตัวน้อยอย่างปลอดภัย ท่ามกลางรอยยิ้มและความตื่นเต้นของทีมควาญช้างและเจ้าหน้าที่กู้ภัยช้างที่เฝ้าดูแลการคลอดตลอดทั้งคืน
ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน พังมีนาเริ่มมีอาการปวดเบ่งและกระสับกระส่าย ทีมควาญช้างจึงเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือการคลอดอย่างใกล้ชิด กระทั่งราวตีสี่ แม่ช้างเริ่มเบ่งคลอด และในเวลาไม่นานลูกช้างเพศผู้ก็ลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย

หลังคลอดไม่นาน ลูกช้างสามารถลุกยืนได้ด้วยตนเองซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของความแข็งแรง โดยทีมควาญช้างได้ตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่า ทั้งแม่และลูกช้างมีอาการปกติ และเพื่อความเป็นสิริมงคล ควาญช้างได้ห่มผ้าจีวรคลุมลูกช้างไว้ เป็นสัญลักษณ์ของ “ช้างเด็กวัด” ใต้ร่มใบบุญท่านพระครูอ๊อดวัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ ตามประเพณีชาวเหนือที่เชื่อว่า จะนำความเจริญรุ่งเรืองและคุ้มครองลูกช้างให้เติบโตอย่างปลอดภัย

เฝ้าระวังใกล้ชิด 48 ชั่วโมงแรก “ช่วงเวลาวิกฤตของลูกช้างแรกเกิด” ทีมควาญช้างบ้านช้างตระกูลแสน ดูช้างดูดอย ระบุว่า ช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการคลอด ถือเป็นระยะเวลาสำคัญที่ต้องเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพฤติกรรมการหายใจ การยืน การดูดนม และอุณหภูมิร่างกาย ทั้งนี้ ลูกช้างต้องได้รับ “น้ำนมเหลือง” จากแม่ภายใน 24 ชั่วโมงแรก เนื่องจากน้ำนมชนิดนี้มีสารภูมิคุ้มกันธรรมชาติ ช่วยสร้างความแข็งแรงและป้องกันโรคร้ายแรง โดยเฉพาะโรคไวรัส EEHV (Elephant Endotheliotropic Herpesvirus) ซึ่งเป็นสาเหตุการตายของลูกช้างจำนวนมากในประเทศไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา






