วันที่ 24 ตุลาคม 2568 บริเวณศาลาอัญเชิญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากแม่น้ำบางปะกงวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้จัดการแถลงข่าว งานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา 2568 ขึ้น
โดยมีนายสันติ รังษิรุจิ ผวจ.ฉะเชิงเทรา
นายพงศธร ถาวรวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา
นายธีรพล ลือล่า ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา
นายยุทธนา มาตเจือ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา
พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา
นางสาวศิริพรรณ เห็นสุข ผอ. สำนักงานท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย สำนักงานฉะเชิงเทรา สื่อมวลชน ส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการเเถลงข่าว

ทั้งนี้จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กำหนดจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา พุทธศักราช 2568 ครั้งที่ ๑๓๕ ระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม – ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
รวมระยะเวลา ๑๐ วัน ๑๐ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งพิธีบวงสรวงและพิธีอัญเชิญหลวงพ่อโสธรจำลองลงเรือแห่ไปตามแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเป็นพิธีสำคัญที่ชาวเมืองแปดริ้วให้ความเคารทศรัทธาและถือเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัด พร้อมด้วยขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางบกที่ยิ่งใหญ่ตระการตา มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง การออกร้านของหน่วยงานราชการและภาคเอกชน การจัดนิทรรศการผลงานและนวัตกรรมของส่วนราชการ การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชมชน สินค้าเกษตรคุณภาพ และผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จากทั้ง ๑๑ อำเภอของจังหวัด รวมถึงก็จกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและร่วมสืบสาน ประเพณีลอยกระพง
อันงดงาม
ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดียวกันของงาน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอันดีงาม
การจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทราในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสาน
ขนบธรรมเนียมประเพณีอันทรงคุณค่า ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ตลอดจนสร้าง
ความสามัคคีและความภาคภูมิใจให้แก่ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีหลวงพ่อโสธรเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา
และความผูกพันของคนเมืองแปดริ้ว
จังหวัดฉะเชิงเทรา ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวทุกท่าน ร่วมสักการะองค์ หลวงพ่อโสธรพระคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว พร้อมร่วมสัมสัมผัสบรรยากาศ
งานประจำปีอันทรงคุณค่า ที่สะท้อนวิถีแห่งศรัทธา ความสามัคคี และความภาคภูมิใจของชาวเมืองแปดริ้วท่ามกลางความรื่นเริงงดงามของศิลปวัฒนธรรมและแสงสีแห่งความสุขตลอด ๑๐ วัน ๑๐ คืน




