AFP รายงานว่าสมาชิกรัฐสภาติมอร์-เลสเต้มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อคืนที่ผ่านมา (อังคารที่ 16 กย.) ให้ยกเลิกโครงการซื้อรถประจำตำแหน่งคันใหม่ยี่ห้อ “โตโยต้า พราโด” SUV จำนวน 65 คันมูลค่า 4.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือมากกว่า 133 ล้านบาทให้กับสมาชิกรัฐสภา พร้อมออกแถลงการณ์ย้ำให้สส. ใช้ประโยชน์จากรถที่มีอยู่แล้วคุ้มค่า
มติยกเลิกโครงการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกลุ่มนักศึกษาจำนวนกว่า 2 พันออกมารวมตัวกันที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงดิลี่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อประท้วงโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังจากสภามีมติยกเลิก กลุ่มนักศึกษายังออกมารวมตัวเป็นวันที่สาม เนื่องจากมีข่าวลือว่ารถได้ถูกส่งออกมาแล้ว และอยู่ระหว่างการเดินทางมาติมอร์ โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวว่าพวกเขาจึงต้องออกมาอีกในวันนี้เพื่อให้มั่นใจว่าเงินภาษีของพวกเขาจะไม่ถูกนำไปใช้ผิดทาง
การชุมนุมประท้วงติดต่อกัน 2 วันได้ยกระดับเป็นความรุนแรงหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจซึ่งตอบโต้ด้วยการยิงแก้สน้ำตา ขณะที่ประธานาธิบดีโฮเซ่ รามอส-ฮอร์ต้าก็ออกมาเตือนว่ารัฐบาลจะไม่อดทนอดกลั้นต่อความรุนแรง
ติมอร์-เลสเต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยข้อมูลของธนาคารโลกเผยว่าประชากรมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของประเทศนี้อาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน
เดือนที่แล้ว (สิงหาคม) กลุ่มผู้ประท้วงอินโดนีเซียได้ก่อเหตุจลาจลครั้งใหญ่หลังตำรวจขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมประท้วงซึ่งมีต้นเหตุมาจากการที่
สส. ได้ขึ้นเบี้ยเลี้ยง ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและการว่างงานของชาวอินโดนีเซี