AFP รายงานว่าตำรวจติมอร์-เลสเต้ได้ยิงแก้สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงกว่า 1 พันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ที่ออกมารวมตัวกันใกล้กับอาคารรัฐสภาที่กรุงดิลีในวันนี้ (จันทร์ที่ 15 กย.) เพื่อประท้วงแผนการจัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งคันใหม่ให้กับสมาชิกรัฐสภาทั้ง 65 คน โดยแผนดังกล่าวผ่านการรับรองในรัฐสภาเมื่อปีที่แล้ว
แผนดังกล่าวถือเป็นจุดชนวนความขัดแย้งล่าสุดในติมอร์-เลสเต้ ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ และยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยข้อมูลของธนาคารโลกเผยว่าประชากรมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของประเทศนี้อาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน
กลุ่มผู้ประท้วงที่โกรธแค้นได้ตะโกนเรียกร้องให้สภายกเลิกแผนซื้อรถโตโยต้า พราโด้สำหรับสมาชิกรัฐสภา ไม่เช่นนั้นจะไม่ยุติการชุมนุมและจะปักหลักอยู่ที่หน้าอาคารัฐสภา ขณะที่การชุมนุมซึ่งช่วงแรกไปเป็นอย่างสงบได้กลายเป็นเหตุปะทะรุนแรงหลังตำรวจยิงแก้สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงเพื่อตอบโต้ที่ถูกปาก้อนหิน ทำให้รถยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย และส่งผลให้ผุ้ประท้วงได้รับบาดเจ็บอยางน้อย 4 คน
ล่าสุดพรรคการเมืองหลายพรรคได้ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องรัฐ
สภาให้ยกเลิกแผนดังกล่าวแล้ว
ติมอร์-เลสเต้แยกตัวเป็นเอกราชจากอินโดนีเซียในปี 2545 หลังจากถูกยึดครองมา 24 ปี กำลังเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ ภาวะทุพโภชนาการ และการว่างงานในระดับสูง