วันที่ 12 ต.ค. 2564 ที่ศาลาปฏิบัติธรรมวัดประดู่พัฒนาราม ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พระพรหมจริยาจารย์ วัดกะพังสุรินทร์ จ.ตรัง เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เป็นประธานในพิธีรับพระบัญชาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แต่งตั้งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชรูปใหม่ (มหานิกาย) โดยพระราชปริยัติเวที (เจือ กิตฺติปญฺโญ ป.ธ.9 ) วัดมุมป้อม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และพระสิริคณาจารย์ (รั่น อาริโย ป.ธ.4) วัดประดู่พัฒนาราม ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รองเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เปนเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชรูปใหม่ โดยมีพระธรรมวิมลโมลี (พงศ์สรร อสิญาโณ ป.ธ.9 ) วัดไตรธรรมาราม จังหวัดสุราษฏร์ธานี เจ้าคณะภาค 16 พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลและเจ้าอาวาสในจังหวัดนครศรีธรรมราช 23 อำเภอ และนายธีรเดช จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมีพระราชวิสุทธิกวี (ไมตรี ปภารตโน ป.ธ.4 ) เจ้าคณะภาค 16 เข้าร่วมในพิธีด้วย ท่ามกลางมาตรการควบคุมป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งเคร่งครัด
นายธีรเดช จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อัญเชิญพระบัญชาพร้อมอ่านพระบัญชา เรื่อง พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ได้มีพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้พระสังฆาธิการในจังหวัดนครศรีธรมราช จำนวน 2 รูป ดำรงตำแหน่งใหม่ ดังนี้ 1. พระราชปริยัติเวที (เจือ) เจ้าคณะจังหวัตนครศรีธรรมราช ให้ดำรงตำแหน่ง เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 30สิงหาคม 2564 และ 2. พระสิริคณาจารย์ (รั่น) รองเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ดำรง ตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 หลังจากนั้นพระราชปริยัติเวที (เจือ) และพระสิริคณาจารย์ (รั่น) ได้เข้ารับพระบัญชาและเอกสารตราตั้งตามลำดับ
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช พระพรหมจริยาจารย์ กล่าวกับหมู่สงฆ์ว่าอาตมาและเจ้าคณัภาค 16 ได้ให้การสนับสนุนพระราชปริยัติเวที หรือ “เจ้าคุณเจือ” ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในการบลริหารคณะสงฆ์และสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลงานในการจัดระเบียบวัดและคณะสงฆ์จังหงวัดนครศรีธรรมราชเป็นเอกภาพได้รับกหารยอมรับอยางกว้างขวาง แต่มีเหตุผลในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ที่จำเป็นต้องมีพระสังฆาธิการที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ทางคณะสงฆ์จึงมีมติยกให้พระราชปริยัติเวที (เจือ)เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเพื่อจะได้มีเวลาในการดำเนินกิจกรรมด้านการเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนอย่างจริงจัง และมีมติให้พระสิริคณาจารย์ (รั่น) รองเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ลำดับที่ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชรูปใหม่แทน ขอให้พระสังฆาธิการ รวมทั้งภิกษุ สามเณรน้อยทั้งหลายจงยึดมั่นในหลักพระธรรมวินัยเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนกิจการทางพระพุทธศาสนา ในจังหวัดนครศรีธรรมราชให้เจริญรุ่งเรืองยั่งยื่นตลอดไป
“อาตมาอยากจะขอร้องทุกท่านอย่าไปสร้างเรื่องที่ไม่ดี ไม่งามขึ้นมาตกเป็นข่างไม่ดีเหมือนในภาคอื่น ๆ ขอให้ช่วยกันดูแล และขอฝากให้เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชทำการปกครองให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ในกรอบพระวินัยและปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคมและพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชอย่างเคร่งครัด ตามหลัก 5 ประการซึ่เป็นหัวใจของนักปกครองตามหลักพระพุทธศาสนานั่นคือเป้าหมายและหัวใจของการปฏิบัติการขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนา มีอะไรเกิดขค้นก็ช่วยกันระงับยับยั้งอย่าให้ลุกลามใหญ่โตกว้างขวาง ให้ให้เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งใจปฏิบัติสนองงานตามพระบัญชาที่สมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้ทรงแต่งตั้ง ซึ่งพระภิกษุในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีบทบาทที่สำคัญในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ครั้งโบราณพระอุบาฬี เป็นพระราชาคณะในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา ที่โปรดให้เดินทางไปยังประเทศศรีลังกาตามคำร้องของฝ่ายศรีลังกา ในการเป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทแก่สามเณรชาวสิงหล เพื่อสืบทอดพุทธศาสนาในศรีลังกา ก็เป็นพระภิกษุที่มีถิ่นฐานเดิมไปจากนครศรีธรรมราช จึงเป็นเรื่องที่สูงส่งในการไปเผยแผ่ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่คณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ได้ร่วมกันภาคภูมิใจเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เป็นที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้”
ในขณะที่พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 กล่าวท่ามกลางหมู่สงฆ์ว่า อาตมาขอยืนยันว่าการดำเนินการแต่งตั้งเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนทุกประการ แม้จะมีการวิพากวิจารณ์ในหมู่พระภิกษุสงฆ์และประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวางก็ตาม อาตมาเป็นเพื่อนกับพระราชปริยัติเวที รู้ดีว่าเพื่อนของผมมีความรู้ความสามารถ เข้ามาช่วยคณะสงฆ์แก้ปัญหาหมักหมมในจังหวัดนครศรีธรรมราชจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่เมื่อเป็นความต้องการทางเบื้องบนที่อยากให้พระราชปริยัติเวที ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาเพื่อสนองนโยบายด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา อาตมากับเจ้าคณะใหญ่หนใต้ปรึกษาหารือกันหลายรอบในการแต่งตั้งครั้งนี้ จึงเห็นควรว่าสถานการณ์ปัจจุบันให้ยกเจ้าคุณเจือเพื่อนอาตมาขึ้นเป็นที่ปรึกษา ฯเพื่อให้ได้ตั้งสำนักเรียนบาลีขึ้นเพื่อสอนเปรียญสร้างความรู้ พัฒนาการเปรียญตามที่เจ้าคุณเจือเองก็มีความตั้งใจที่จะทำในเรื่องดังกล่าว เพราะตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่มีเวลาสนใจในเรื่องการส่งเสริมการเรียนบาลีเลย แม้อาตมามีคำสั่งให้ไปพบท่านก็แจ้งว่าติดภาระกิจไปปฏิบัติธรรม “การที่ทุกท่านออกมาวิพากวิจารณ์การแต่งตั้งในครั้งงนี้เป็นพระท่านรักพระราชปริยัติเวที ซึ่งผมก็รักเพื่อนของผมเหมือนกัน แต่ในบางสิ่งบางประการจำเป็นต้องห้าม ต้องเบรก อาตมาไม่ได้มีอำนาจในการแต่งตั้งเอง เมื่อเจ้าคณะใหญ่ผู้บังคับบัญชาของอาตมาและมหาเถรสมาคม ประสานลงมาเราก็รู้แล้วว่าสุดท้ายก็ต้องเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องปรับยุทธวิธีเลยต้องยกออกมาเป็นที่ปรึกษา ฯซึ่งยังมียศ ตำแหน่ง และมีความสำคัญ มีอำนาจในการบริหารคณะสงฆ์เหมือนเดิมทุกประการเพียงแต่ไม่ต้องไปลงนามในการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการในปกครองเท่านั้น”
พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16 กล่าวอีกว่า ในการแต่งตั้งมีการพูดคุยกันว่าจะเอารองเจ้าคณะจังหวัดรูปที่ 2 ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพระราชปริยัติเวที ขึ้นเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะเขามองว่าพระสิริคณาจารย์ (รั่น) รองเจ้าคณะจังหวัดรูปที่ 1 มีความคิดหลายเรื่องไม่ไปในทางเดียวกับอาตมา เกรงจะมีปัญหาในการบริหารคณะสงฆ์ได้ แต่อาตมายืนยันว่าเรื่องสาวนตัวอาตมาไม่ได้ยึดถือมาเป็นอารมณ์ การแต่งตั้งจะต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน รองรูปที่ 1 จะต้องได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงมีมติจนนำมาสู่พระบัญชาแต่งตั้งดังกล่าว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช