AFP รายงานว่าขนม “ดัลโกน่า” หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าขนมรวงผึ้งที่ทำจากน้ำตาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกมในซีรี่ย์ Squid Game กำลังขายดิบขายดีในเกาหลีใต้ โดยลิม จาง-จู พ่อค้าขายขนมดัลโกน่า มานานถึง 25 ปีบอกว่าตั้งแต่ขายมา ไม่เคยขายดีขนาดนี้มาก่อน จนตอนนี้ทำแทบไม่ทัน เพราะมีลูกค้ามาต่อคิวรอจำนวนมาก จนต้องจำกัดขายให้ไม่เกิน 10 ชิ้นต่อคน
ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีศึกษาที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทอร์ ดาม และมหาวิทยาลัยซานดิเอโก้ ของสหรัฐกล่าวว่า Squid Game นับเป็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมของเกาหลีหรือ Soft Power ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก โดยซีรี่ย์เรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่และได้รับความนิยมไปราว 90 ประเทศ สะท้อนถึงปัญหาสังคม ความยากจนและความไม่เท่าเทียม ซึ่งเกิดจากระบบทุนนิยม โดยเฉพาะเกาหลีใต้ที่เคยผ่านสงคราม, ความยากจนและรัฐบาลที่กดขึ่มาแล้วในอดีต ทำให้ประชาชนแสดงออกถึงความต้องการอำนาจ ความรุนแรงและปัญหาสังคมต่างๆ
ผู้กำกับเรื่องนี้เขียนบทเสร็จมาแล้วกว่า 10 ปีแต่ปรากฎว่าไม่มีใครกล้าลงทุนเนื่องจากมองว่าเนื้อหารุนแรงและโป๊เกินไป จนในที่สุด Netflix เข้ามาลงทุน
Squid Game ขณะนี้กลายเป็นซีรี่ย์อันดับ 1 ในสหรัฐ ทันทีที่มีการเผยแพร่ได้เพียง 4 วัน แต่ล่าสุดปรากฎว่าสมาคมสื่อและโทรทัศน์สำหรับเด็กในสหรัฐได้ออกมาเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ใช้ความระมัดระวังในการกำกับดูแล และควบคุมลูกหลานในการรับชมอย่างใกล้ชิด โดยเตือนถึงเนื้อหาที่รุนแรง
ขณะที่โรงเรียนที่อังกฤษก็ออกมาเตือนพ่อแม่ผุ้ปกครองเช่นกัน หลังจากมีรายงานว่ามีเด็กได้ขอให้คุณครูจัดแข่งเกมตาม Squid Game และโรงเรียนอีกแห่งมีรายงานว่าเด็กๆได้เล่นเกมกันในสนามเด็กเล่น และเมื่อมีคนแพ้ ปรากฎว่าคนแพ้ถูกรุมทุบตี
Squid Game มีเนื้อหาสะท้อนถึงวิกฤติเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ ทำให้เกิดความยากจนไปทั่ว จนผุ้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจได้ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันเกมแบบสมัยเด็กๆ เพื่อหวังชิงรางวัลเป็นเงินสด 4 หมื่น 5 พัน 600 ล้านวอน หรือประมาณ 1 พัน 216 ล้านบาทไปครอง ใครแพ้เกมจะถูกกำจัดด้วยการยิงทิ้ง ซึ่งมีฉากเลือดสาดตลอดทั้งเรื่อง