“สก.นภาพล” ซัดกระทู้ถาม “กทม.” เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า

“ส.ก.นภาพล” กระทู้ถามสดผู้ว่าฯ กทม.การชำระหนี้ บีทีเอส ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่ อย่างไร

“สก.นภาพล” ซัดกระทู้ถาม “กทม.” เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า – Top News รายงาน

 

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) 2 ดินแดง ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) วันนี้ นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางกอกน้อย ได้กระทู้ถามสด เรื่องการดำเนินการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง O&M ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่หนึ่ง และส่วนต่อขยายที่สอง ในส่วนที่ค้างชำระ

นายนภาพล ได้ถามนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะชำระหนี้ให้กับบีทีเอสเมื่อไหร่ โดยกล่าวว่า สืบเนื่องจากการรายงานผลของคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตนในฐานะประธานกรรมการวิสามัญฯ รายงานดังกล่าวเสร็จตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการชำระหนี้ค่า O&M หรือค่าเดินรถและซ่อมบำรุง ของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่ 1 ที่ 2 สายสีเขียว ซึ่งต้องแจ้งว่าตอนนี้ถึงกำหนดชำระมานานแล้ว และต้องเสียดอกเบี้ยอย่างที่เคยรายงานให้ที่ประชุมทราบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2 ส่วนนี้เสียดอกเบี้ยวันละ 5 ล้าน 4 แสนบาท ซึ่งต้องขอทวนเรื่องให้ที่ประชุมได้ทราบว่าหนี้ที่เราต้องชำระตอนนี้มีอยู่ 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือที่ทาง BTS ฟ้องศาลอยู่ แต่ยังแสวงหาข้อเท็จจริง ตรงนี้เป็นหนี้ค้างชำระตั้งแต่มิถุนายน 64 ถึงตุลาคม 65 กทม.เป็นหนี้ค่าเดินรถ เป็นต้นเงิน 10,127 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2,118 ล้านรวม รวมแล้ว ต้องชำระหนี้ 12,245 ล้านบาท นี่คือช่วงที่ฟ้องอยู่

และช่วงหลังฟ้อง ถึงกำหนดชำระแล้ว แต่ กทม. และเคที ยังไม่ได้ชำระ คือหนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 65 ถึงธันวาคม 2566 หนี้ที่ต้องชำระเฉพาะต้นเงิน 14,235 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี ดอกเบี้ย 1 ปี ในส่วนหนี้ 1,246 ล้านบาท รวมเป็นเงินในส่วนที่ 2 ที่ถึงกำหนดชำระ 15,499 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ทางกรรมการวิสามัญได้รายงานสู่สภาแล้ว จึงขอถามว่า ขั้นตอนการพิจารณารายงานจากที่กรรมการวิสามัญได้รายงานไปแล้วผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการชำระหนี้ O&M ไปถึงไหนอย่างไร

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่อง BTS นี้เป็นเรื่องที่หนักใจ เพราะเป็นยอดหนี้ที่มีจำนวนเงินมาก ซึ่งกทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ จ่ายเงินไปแล้ว 37,700 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่เหลือ เราต้องพิจารณาในหลายมิติจริง ๆ ส่วนรายงานของกรรมการวิสามัญ ตนได้ทราบตามที่ท่านรายงาน มาจากสภา ซึ่งขั้นตอนก็ต้องเป็นทางการ ตนยังแปลกใจว่าทำเสร็จตั้งแต่มีนาคมแล้วทำไมถึงมารายงานช่วงนี้ ถ้าเร่งด่วนก็ควรจะรีบรายงานมาเลย เราจะรีบดำเนินการในหลายมิติ และจะขอให้นายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงต่อไปว่ากทม.ได้ทำอะไรบ้าง

“ขอเรียนว่าเรื่อง BTS เราคุยกันโดยตลอด เพราะมีหลายเรื่องและมียอดหนี้สูง ประเด็นที่จะเอาเงินประชาชน ไปจ่าย ต้องมีการรับผิดชอบ ซึ่งที่สุดแล้วสภาก็ตั้งรับผิดชอบร่วมกันเพราะต้องขอสภา ถ้าไม่รอบคอบ ไม่ถี่ถ้วนไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน เชื่อว่าเอาเข้าสภาก็ไม่มีใครอนุมัติ เราไม่ได้เป็นคนเริ่มต้น มันต่อเนื่องมาก่อนหน้าที่เราเข้ามา ทุกอย่างที่ทำต้องมีความละเอียดรอบคอบในทุกประเด็น มีคนที่เกี่ยวข้องหลายคน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องมีอัยการเจ้าของคดี คดีที่อยู่ในชั้นศาล ว่าอย่างไร เราสามารถจ่ายก่อนนอกศาลได้หรือไม่ ตกลงได้หรือไม่ ต้องเอาให้รอบคอบเพราะมีหลายประเด็นที่ซับซ้อน และเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะจบแค่นี้อนาคตอีก 10 ปีอาจจะกลับมาหาพวกเราได้ ซึ่งพวกเราทุกคนต้องร่วมกันตัดสินใจ” นายชัชชาติ กล่าว

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล กล่าวว่า ทางกทม. ชำระหนี้ไปแล้ว 37,000 ล้าน ในคดีที่ 1 ส่วนที่ยังค้างจ่ายในคดีที่ 2 มูลค่าประมาณ 12,000 ล้าน และค่าจ้างเดินรถหลังที่ยังไม่ได้ฟ้องมูลค่าประมาณ 17,000 ล้าน และค่าจ้างเดินรถในปี 68 อีก 1,700 ล้านบาท เรื่องที่ค้างอยู่ในอนาคตที่เรากำลังเจรจาอยู่ การเจรจามีอยู่ 2 ประเด็นคือการชำระหนี้ที่เกิดมาแล้ว และอนาคตที่ยังไม่ได้มีการเดินรถตามสัญญา อนาคตต้องขอเรียนว่าสัญญานี้ยังไม่เคยผ่านสภา ฉะนั้นเราต้องมาต่อรองร่วมกันพิจารณาค่าใช้จ่ายในอนาคตจะเป็นอย่างไร

นายวิศณุ กล่าวว่า สิ่งที่ฝ่ายบริหารได้ดำเนินการตั้งแต่ปลายปีที่แล้วคือตั้งคณะกรรมการ ในการพิจารณาเรื่องชำระหนี้ ซึ่งเราก็ได้แจ้งให้กรุงเทพธนาคมเร่งดำเนินการเลย กรุงเทพธนาคมก็ได้แจ้ง BTS เพื่อขอให้เจรจา 3 ครั้ง ประเด็นในการเจรจา ขอปรับลดเงินต้นจากกรณีที่มีคอขวดที่สะพานตากสิน ทำให้ความถี่ในการเดินรถไม่เป็นไปตามสัญญา เรื่องนี้ก็อยู่ในวงการเจรจาปรับลดตัววงเงินที่เป็นค่าจ้างลง ประเด็นที่ 2 ก็คือปรับลดดอกเบี้ยให้เหลือ mlr ลบ 1 ซึ่ง BTS ยังไม่ได้ตอบมา เราส่งหนังสือตามไปอีก วันที่ 9 เมษายน หลังจากที่ทางสภาได้มีข้อเสนอให้เร่งรัด ซึ่งเราก็ได้ส่งเป็นเอกสาร ถามไปทาง BTS ไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน และวันที่ 25 เมษายนเพื่อให้ตอบอย่างเป็นทางการ ส่วนประเด็นที่เจรจาเพิ่ม คือค่าจ้างเดินรถที่กำลังดำเนินอยู่ในปี 68 และอนาคตหลังจากสัญญาสัมปทานปี 72 มันจะมีตัวซื้อรถใหม่ และนำมาหารเป็นค่าใช้จ่าย การเดินรถปัจจุบันอันนี้เป็นประเด็นที่สามารถเจรจาต่อรองได้ สำหรับเรื่องค่าจ้างเดินรถขั้นที่ 2 สามารถจ่ายได้หรือไม่ เราสอบถามไปที่ป.ป.ช. แต่ป.ป.ช.ยังไม่ได้ตอบกลับมา

ส่วนอีกหน่วยงานที่เราสอบถามก็คือสำนักงานอัยการสูงสุด สอบถามในประเด็นการชำระค่าจ้างในช่วงคดีที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณายังไม่มีคำพิพากษาออกมา จะสามารถชำระได้หรือไม่ และการชำระหลังคดีที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา จนถึงปัจจุบันจะสามารถชำระได้หรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับมาเมื่อวานนี้ ประเด็นแรกค่าจ้างในการเดินรถคดีที่ 2 ไม่สามารถให้ความเห็นได้เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง อยู่ ส่วนค่าจ้าง ช่วง หลังฟ้องที่ 2 ก็ขอให้มาพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ โดยสรุปก็คือ เราจะเร่งรัดการดำเนินการจุดนี้ให้ ไม่ได้ล่าช้า ส่วนประเด็นการต่อรองก็ต้องให้ BTS รีบตอบกลับมา อย่างไรก็ตามในการไปเจรจาต่อรองกับทางบีทีเอส เขายังไม่ลดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย

 

 

นายนภาพล ถามคำถามที่ 2 ว่า ที่อัยการตอบมาแบบนี้ทางฝ่ายบริหารจะดำเนินการอย่างไร จะรอจนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษาใช่หรือไม่ ซึ่งการต่อสู้ก็คือประเด็นเดียวกันจากที่เคยต่อสู้ครั้งที่ 1 ต้องบอกว่าจากรายงานจนถึงบัดนี้ 3 อาทิตย์ดอกเบี้ยก็ร้อยกว่าล้านแล้ว ยิ่งถ้ารอศาลปกครองพิพากษา อาจจะใช้เวลา 2 ปีถึง 3 ปี แต่ปัญหาดอกเบี้ยวันละ 5.4 ล้านบาท กทม.ก็คงต้องคิดหนัก ว่าจะทำอย่างไร อย่าลืมว่าเราเข้ามาเพื่อจะแก้ปัญหา เมื่ออัยการตอบมาแบบนี้ ท่านจะทำอย่างไร จะรอต่อไปหรือไม่

นายชัชชาติ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วการถาม เป็นการถามเพื่อให้เกิดความชัดเจน รอบคอบ เมื่อนำเรื่องเข้าสู่สภา สภา จะได้ไม่ต้องมานั่งย้อนถามว่าเราได้ถามป.ป.ช.หรือ อัยการ ถามกฤษฎีกาหรือยัง ซึ่งเราทำทุกอย่างให้รอบคอบ สำหรับเรื่องดอกเบี้ยเราทราบอยู่ว่าดอกเบี้ยมันเดินทุกวัน ฉะนั้นการทำต้องรอบคอบด้วย ถ้าจ่ายผิดพลาดไป สภาก็ต้องรับผิดชอบด้วย อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าเราไม่จ่าย ซึ่งเราเคยจ่ายมาแล้ว ผมในฐานะผู้บริหารก็ต้องทำเรื่องนี้ให้รอบคอบเพราะในฐานะที่ต้องเอาเรื่องเข้าสภาพวกเราก็ต้องช่วยร่วมกันรับผิดชอบร่วมกัน ในอนาคตที่ต้องโหวตถ้าข้อมูลไม่ครบถ้วน ผมเชื่อว่าสมาชิกก็ไม่ผ่านง่าย ๆ เพราะหลายฝ่ายต้องกังวล ผมเชื่อว่าเราหารือร่วมกันมีคณะกรรมการจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์กับพี่น้องประชาชน การต่อรอง กับบีทีเอสต้องยอมรับว่าไม่ใช่คุยง่าย ๆ เพราะเอกชนเขาแข็ง ถ้าใครรู้จักพอจะช่วยพูดคุยได้ก็ ประสานงานให้หน่อย

นายนภาพล กล่าวว่า ขอสรุปว่าตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่อย่างไร นอกจากหนี้ 2 ก้อนนี้ยังมีค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงในอนาคต ซึ่งสำนักจราจร ได้แจ้งว่าหนี้ที่เกิดขึ้นในอนาคต คือหนี้ที่เป็นค่าจ้างเดินรถเดือนมกราคม 68 เรามีเงิน ช่วงต่อขยายที่ 1 มีเงินอยู่ที่สภาเคยอนุมัติไปพันกว่าล้าน ยังคาอยู่และเงินที่เก็บค่าโดยสารเดินรถทุกวันยังอยู่รวมแล้ว 2 พันกว่าล้าน ส่วนต่อขยายที่ 2 เราเก็บตอนนี้มีเงินอยู่ที่สำนักจราจรประมาณพันกว่าล้าน แยกเป็น 2 ส่วน มีคนถามว่า ทำไมเราไม่ยอมจ่ายแต่ทำไมเราไปเก็บเงินเข้ากระเป๋าเรา คือเราไม่จ่ายหนี้เขา แต่เราเอาค่าโดยสารมา จึงเกิดคำถามว่าเมื่อสำนักจราจร จะชำระเงินเป็นรายเดือนทุกวันที่ 20 ตามสัญญา ปรากฏว่า เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม 3 เดือนแล้ว ยังไม่ชำระ

“สอบถามว่าติดขัดตรงไหน แจ้งว่าตอนนี้อยู่ที่ฝ่ายบริหารจะเซ็นว่าจะชำระหรือไม่ชำระ ซึ่งเราต้องชำระวันที่ 20 ซึ่งเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ เราไม่ชำระตามสัญญา เขาจะคิดดอกเบี้ยเราหรือไม่ mlr บวก 1 ที่เราชำระช้าเพราะฝ่ายบริหารยังไม่เซ็น จึงขอถามท่านประธานว่าหนี้ในอนาคตกุมภาพันธ์ มีนาคม จนถึงสิ้นปีงบประมาณตุลาคม ท่านจะชำระได้เมื่อไหร่ เพราะกลัวว่าจะอ้างว่าเป็นสัญญาเดียวกับที่ฟ้องโดยสาร ต้องรอหรือต้องไปถามอัยการว่าชำระได้หรือไม่ได้ ผมเลยต้องขอคำตอบในส่วนนี้” นายนภาพล กล่าว

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล ชี้แจงว่า ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการทำเอกสารเพื่อจะดำเนินการขอจ่ายอยู่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น