กลายเป็นอีกประเด็นร้อนการเมือง หลังจาก ศาสตราจารย์ ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงคำสั่ง ให้มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ อ้างเหตุผลสถาบันฯมีจุดยืนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และถึงแม้สนับสนุนการให้เสรีภาพทางวิชาการ แต่ต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายของประเทศไทย และส่งเสริมความคิดเห็นที่สร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยจะไม่ส่งเสริมหรือสนับสนุนความคิดเห็นใดๆ ที่จะนำไปสู่ความแตกแยกของกลุ่มคนในสังคมและประเทศชาติ
ต่อมา สถาบันทิศทางไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง สนับสนุน ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ระบุเนื้อความสำคัญ จากกรณีมีกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการออกมาปกป้องสถาบันหลักของชาติ และกลุ่มนักการเมืองที่ไม่พอใจเป็นการส่วนตัว จากการที่ ดร.อานนท์ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ได้พยายามสร้างกระแสกดดันสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ต้นสังกัดให้สอบจริยธรรม ดร.อานนท์
คณะกรรมการและคณาจารย์ของสถาบันทิศทางไทยมีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวนี้
1. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เป็นสถาบันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้ก่อตั้ง มิได้ก่อตั้งโดยองค์กรหรือกลุ่มประชาธิปไตยหรือนักการเมืองกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดๆ จึงเป็นหน้าที่สำคัญของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)และบุคคลากรที่จะต้องสำเหนียกว่าการปกป้องสถาบันหลักของชาติคือสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรก เหนือกว่าการปกป้องหลักการประชาธิปไตยหรือหลักการอื่นใดที่เรียนและรับมาจากชาติตะวันตก ดังนั้นสิ่งที่ดร.อานนท์ได้ทำมาตลอดในเรื่องการปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มที่ สุดความสามารถ จึงเป็นสิ่งที่ชอบและถูกต้องแล้ว อันเป็นสิ่งที่บุคลากรของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)ควรพิจารณาเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
2. ในสถานการณ์ปัจจุบัน มีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีจุดประสงค์เพื่อล้มล้างเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง อาศัยมหาวิทยาลัย สถาบันวิชาการ องค์กรวิชาการเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหว โดยมุ่งระดมโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ เจตนาสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังปรากฎกรณีที่ รมว.อุดมศึกษาได้มอบหมายให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของอาจารย์มหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งที่ออกมาใช้ตำแหน่งทางวิชาการปกป้องผู้ต้องหาที่ทำผิดกฎหมาย ม.112
การที่ดร.อานนท์ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ตอบโต้ เปิดเผยข้อเท็จจริง ของกลุ่มนักวิชาการที่ต้องการทำลายรากฐานความเป็นชาติ อย่างตรงไปตรงมา จึงมิใช่การยุยง ปลุกปั่นเพื่อสร้างความแตกแยก หากเป็นความพยายามถึงที่สุดที่จะปกป้องรักษารากฐานความเป็นชาติเอาไว้
คณะกรรมการและคณาจารย์ของสถาบันทิศทางไทยมีความเห็นพ้องต้องกันที่จะสนับสนุน ดร.อานนท์ ให้ดำเนินการที่ทำอยู่แล้วนั้นต่อไป เพื่อเป็นตัวอย่างให้สังคมไทยเห็นถึงการออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์โดยบริสุทธิ์ใจของคนไทยและนักวิชาการคนหนึ่ง อีกทั้งจะสนับสนุนต่อการตรวจสอบ ธรรมาภิบาลของกลุ่มการเมือง ขององค์กร และหน่วยงานต่างๆ จาก ดร.อานนท์ในเรื่องอื่นๆที่จะเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติต่อไปด้วย
ล่าสุด นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า “ตามที่ท่านอธิการบดีของนิด้า ตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีมีการร้องเรียนว่า ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ บุคคลากรของสถาบัน แสดงความคิดเห็นทางการเมือง และอาจนำไปสู่ความแตกแยกของกลุ่มคนในสังคมนั้น
ผมอยากให้ท่านอธิการบดี ได้ทำความเข้าใจกับ ภาษาไทย ระหว่างคำว่า ความแตกแยก กับ การปกป้อง
1.ความแตกแยก หมายถึงการนำไปสู่ ไม่เห็นด้วยอย่างแรง,ไม่ลงรอยกัน,ทะเลาะ,ขัดแย้ง,คัดค้าน ดังนั้นการสร้างความแตกแยก จึงมีผู้เริ่มต้นกระทำให้เกิดความแตกแยก
2.การปกป้อง หมายถึง คุ้มกัน, คุ้มครอง, ป้องกัน, รักษา ผู้ที่มาปกป้อง จึงเป็นผู้คุ้มกัน คุ้มครอง ป้องกันรักษา แน่นอน ผลของการปกป้อง ย่อมไม่อาจจะเลี่ยงความขัดแย้งได้
สิ่งที่ท่านอธิการบดีของนิด้า ต้องตระหนัก ต่อคำแถลงของสถาบันนั่นคือ ท่านทราบไหมครับว่า ดร.อานนท์ ได้ทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50(1) นั่นคือ พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ถามท่านว่า ท่านไม่ทราบจริงๆหรือครับว่า ขณะนี้มีขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินกิจกรรมในนามระบอบสามกีบ ร่วมกับอาจารย์บางส่วนของหลายๆมหาวิทยาลัย ด้วยวิธีการปล่อยเฟคนิวส์ ให้ข้อมูลเท็จ ปั่นหัวเยาวชนของชาติ
ท่านทราบหรือไม่ว่า ดร.อานนท์คือบุคคลที่มีส่วนสำคัญมาก ที่ใช้องค์ความรู้ที่ได้ศึกษา และมีส่วนร่วมกับประชาชนหลายภาคส่วน ช่วยกันปกป้องสถาบันหลักของชาติ แน่นอนครับ ผลของการทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ของดร.อานนท์ ในการปกป้องสถาบัน ย่อมมีความขัดแย้ง แต่ดร.อานนท์ ไม่ใช่ผู้เริ่มต้นกระทำ และย่อมมีบุคคลที่ไม่พอใจ จึงฉวยโอกาสร้องเรียนท่าน เพราะการออกมาปกป้องสถาบันของดร.อานนท์ จะทำให้ขบวนการสามกีบ ยากลำบากที่จะบรรลุเป้าหมาย …ผมหวังว่าท่านอธิการบดีน่าจะเข้าใจ ข้อเท็จจริงและบริบทของความจริงที่เกิดขึ้นครับ”