“พิชัย” ถก 7 องค์กรดัน SME Next Level เสริมแกร่ง SME ทำธุรกิจ-ขยายตลาด

"พิชัย" ถก 7 องค์กรดัน SME Next Level เสริมแกร่ง SME ทำธุรกิจ-ขยายตลาด

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 67 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุมรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของภาคเอกชนเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทย ร่วมกับภาครัฐ สสว. และ 6 หน่วยงานเอกชน

อาทิ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เครือข่ายธุรกิจ Biz Club Thailand สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

 

 

ทั้งนี้ในที่ประชุม ได้มีแนวทางการเคลื่อน SME Next Leval “เสริมแกร่ง แข่งทุกตลาด” โดย 10 แนวทางประกอบด้วย

1. ส่งเสริมและสร้างขีดความสามารถของ SME

2. SME ต้องพัฒนาธุรกิจเสมอ

3. การสร้าง Thailand Brand เพื่อการันตีคุณภาพสินค้า

4. ขายสินค้าและบริการ Soft Power

5. อำนวยความสะดวกเพิ่ใช่องทางการขายสินค้าทั้งช่องออนไลน์ และ On ground ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

6. ตลาดสินต้ารักษ์สิ่งแวดล้อม

7. ผลักดัน SME ใช้ FTA ในการส่งออก

8. การแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ จากต่างประเทศ

9. ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิยช์และ อว.

10. ตั้งเป้าสัดส่วนของ SME ต่อ GDP

ข่าวที่น่าสนใจ

“การช่วยลดต้นทุนค่าครองชีพ ต้นทุนธุรกิจ ให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุน ปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ขยายตลาดให้ SME ไทย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SME จาก 35% เป็น 40% ภายในปี 2570 พร้อมมอบนโยบาย “SME Next Level เสริมแกร่ง แข่งทุกตลาด” สร้างโอกาส SME ไทย”

นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับ SME เป็นเรื่องหลัก ว่าจะทำยังไงให้ SME ไทยไปต่อได้อย่างเข้มแข็ง ให้เอสเอ็มอีของเราสามารถไปสู้กับตลาดโลกได้ในทุกด้าน ให้สัดส่วน GDP เอสเอ็มอีของไทยจาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 อนาคตอยากเห็นเอสเอ็มอีมีสัดส่วนเกิน 50% ในระยะยาว

ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์จะเร่งเจรจา FTA ให้มากขึ้น เพื่อให้ทันกับคู่แข่งอย่างเวียดนาม ให้เรากลับมาแข่งขันได้และการสร้างเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีให้สามารถส่งออกได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน SME จะต้องพัฒนาธุรกิจให้ทันโลก เพราะโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ที่สำคัญต้องคิดใหม่ทำใหม่คิดแบบเดิมจะสู้เขาไม่ได้ และกระทรวงพาณิชย์ตั้งใจที่จะส่งเสริมและสร้างขีดความสามารถ มีแนวคิดที่จะสร้าง Thailand Brand เพื่อการันตีคุณภาพสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ โดยกระทรวงฯจะช่วยการันตีในระยะแรกและเมื่อเขาพัฒนาต่อไปจะเป็นแบรนด์ของเขาเองในอนาคต

 

นอกจากนี้ เราจะดันสินค้าและบริการซอฟต์พาวเวอร์หาจุดขาย เช่น เรื่องสินค้า GI เพิ่มความสะดวกในการจำหน่ายสินค้าทั้ง Online และ On ground ลดต้นทุนของ SME และอนาคตโลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม คาร์บอนเครดิตจะมีความสำคัญมากขึ้น สินค้าของผู้ประกอบการจะต้องตอบโจทย์ตรงนี้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับกระทรวงการอุดมการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. ส่งเสริมให้เอสเอ็มอี มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ให้สินค้าไทยมีคุณภาพสามารถขายได้มากขึ้นช่วยกระจายรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2568
เปิดตัวเลข "แรงงานไทย-กัมพูชา" เทียบค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ประเทศ
ทีม JBC แถลงผลประชุมกัมพูชา ชี้ไทยผิดหวัง "ผู้นำฮุน" จ้องแต่ฟ้องศาลโลก เอา 4 พื้นที่พิพาท ยื่นคำขาดปิดด่าน
"สรรเพชญ" เตือนรัฐบาลเผชิญศึกนอกใน ระวังไทยเสี่ยงเสียบทบาทภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาขัดแย้งกัมพูชาโดนชาติอื่นแทรกแซง
4ส.15 สถาบันพระปกเกล้า ลุยอีสาน ศึกษาพื้นที่อุบลฯ จุดประกายแนวคิด “สันติสุข-พัฒนาชุมชน”
ไฟฟ้าตราด เผย จ.เกาะกง ยังใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย พร้อมตัดไฟทันทีหากรัฐบาลมีคำสั่ง
จันทบุรี บรรยากาศด่านชายแดน หลังประชุม JBC แรงงาน มีการผ่อนคลายเล็กน้อย
ระทึก ทั้งร้านล้อรถพุ่งเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวโชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
"ปานเทพ" เสนอ 7 ข้อเรียกร้อง รัฐบาลสร้างความชัดเจน ผลเจรจา JBC ยกเลิกได้แล้ว MOU43-44
"นายกฯ" ย้ำไทยไม่รับอำนาจศาลโลก จวกผู้นำกัมพูชาสื่อสารไม่ตรงพูดคุย เจตนาปล่อยข่าว ข่มขู่ไม่เป็นผลดี 2 ปท.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น