"พิชัย" รุกเต็มสูบงานพาณิชย์ สานสัมพันธ์ชาติมหาอำนาจ เชื่อมการค้า ลงทุน ผลักดันราคาสินค้าเกษตร มั่นใจศก.ไทยฟื้นกลับแน่

วันที่ 13 ก.ย. 67 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมอภิปรายในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำมานานเกือบ 10 ปี เพียงแค่ 1.9% อย่างไรก็ตาม ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีสงครามการค้า เป็นโอกาสของไทยที่จะได้ประโยชน์ เนื่องจากในมุมมองประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน มองเห็นไทยเป็นมิตร เราจึงสามารถเป็นตัวกลางเชื่อมการลงทุนกลับมาที่ประเทศเราได้

ปีที่ผ่านมา การลงทุนใน PCB หรือ Printed Circuit Board มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ในปีนี้การลงทุนจะเริ่มไหลเข้ามาที่เมืองไทย โดยจะมีการโยกย้ายแผนการผลิตจากจีน ไต้หวัน และฮ่องกง จะเข้ามาในไทย และจะเข้ามาอีกมูลค่าหลายแสนล้านบาท ยืนยันว่าเราต้องทำทุกอย่างให้ PCB เกิด เนื่องจากจะมี Backward integration และ Forward integration มีการเข้ามาของอุตสาหกรรมชิป สมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี เอไอ ดาต้าเซ็นเตอร์ สิ่งเหล่านี้ล้วนใช้ PCB ทั้งนี้ จากการได้ไปคลุกคลีพูดคุยกับนักลงทุน ยืนยันว่านักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนไทยอย่างมาก ที่เขาสนใจมาลงทุนในไทยเพราะเรามีพลังงานมากพอ เหลือ 10,000 กว่าเมกะวัตต์ ทำให้เขามั่นใจ เขาบอกว่าถ้าไปลงทุนเวียดนาม ปัญหาคือไฟฟ้าไม่เสถียร ถ้าไฟตกทีจะเกิดความเสียหายหลายสิบล้านบาท ดังนั้น ถ้าเราพยายามให้มาก เราจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ เกิด S-Curve ใหม่ คืออนาคตของประเทศ

ข่าวที่น่าสนใจ

“นายกฯ” มอบหมายงาน 5 ที่ปรึกษา “ชัยเกษม” ดูแลด้านกม.”พิชัย นริพทะพันธุ์” ให้แนะนำด้านศก. พลังงาน

“พิชัย” แนะธปท.ปรับลดดอกเบี้ย ผ่อนบัตรเครดิต ช่วยเพิ่มขีดสามารถปชช.ผ่อนชำระหนี้

“พิชัย” ติงแรงแบงก์ชาติ คงนโยบายอัตราดอกเบี้ยทำศก.ไทยขยายตัวต่ำในอาเซียน เน้นย้ำร่วมรัฐแก้หนี้สินครัวเรือน ก่อนพังทั้งระบบ

นายพิชัย กล่าวว่า กรณีสินค้าจีน ไม่อยากให้เกิดการโจมตีมากนัก ถ้าวันดีคืนดี จีนไม่ซื้อทุเรียนจากไทย ห้ามนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทย ไทยเราเสียหายเป็นแสนล้านบาท ส่วนตัวได้มีโอกาสคุยกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็มีความกังวลว่าหากแอนตี้จีนมากเกินไปแล้วจีนตอบโต้กลับ เราจะเสียหายมาก มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกัน ได้ข้อสรุปว่า เราต้องคำนึงถึงคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้บริโภค วิธีที่ดีที่สุดคือทำอย่างไรให้สินค้าได้มาตรฐานและปลอดภัยที่สุด ดีกับผู้บริโภค นำมาตรการที่เรามีอยู่แล้วมาใช้ให้เต็มที่ อาทิ มาตรฐานอุตสาหกรรม ป้ายทะเบียน การป้องกันการทุ่มตลาด เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมที่มีอยู่

พิชัยกล่าวว่า สำหรับสินค้าเกษตร กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเชิงรุกมาโดยตลอด เพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น สินค้าเกษตรที่เราดำเนินการและมีราคาเพิ่มขึ้น เช่น ข้าวหอมมะลิสูงสุดในรอบ 5 ปี ข้าวเจ้าราคาสูงสุดในรอบ 20 ปี ข้าวเหนียวสูงสุดในรอบ 4 ปี ยางแผ่นดิบ-น้ำยาง ราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี นี่คือสิ่งที่เราดำเนิ่นการ สินค้าอื่นๆ ก็มีราคาสูงขึ้นกว่าทุกปี

มูลค่าทางเศรษฐกิจของข้าวเปลือก ยางพารา ผลไม้ พืชสามหัว เฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 23% ทำให้เกษตรกร 74 ล้านครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 แสนล้านบาท จากการที่กระทรวงพาณิชย์ทำการตลาดล่วงหน้า นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกมาตรการวีซ่าสำหรับดิจิทัล นอแมต ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเข้ามาอยู่และทำงานในไทยได้นานขึ้น ทำให้ไทยมีโอกาสสร้างธุรกิจใหม่ๆ จากคนเหล่านี้ ส่วนสินค้าไทยที่มาใช้แพลตฟอร์มจีน ได้ติดต่อเพื่อขายของของไทยเข้าไปในประเทศจีนแล้ว จะเป็นเรื่องที่จับต้องได้อีกไม่นาน รวมถึงการขยายการเจรจาเขตการค้าเสรี มีหลายแห่งที่จะสำเร็จเร็วๆ นี้

“อยากให้มั่นใจว่ารัฐบาลโดยการนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จะเร่งแก้ไขปัญหาและมีทิศทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน เราคิดครบทุกกรอบ เพื่อทิศทางในอนาคตที่ประเทศเราจะพัฒนาต่อไป การที่ประเทศไทยเป็นที่รักของนานาประเทศ จะทำให้เราได้ประโยชน์ในการเป็นตัวกลาง มีการลงทุนการค้าต่างๆ เกิดขึ้น อีกไม่นาน เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นใหม่ และเป็นศูนย์กลางที่ประเทศมหาอำนาจต่างๆ จะมาลงทุนในประเทศไทยได้” พิชัยกล่าว

นายพิชัย นริพทะพันธุ์, พิชัย, พาณิชย์, สานสัมพันธ์ชาติมหาอำนาจ, เชื่อมการค้า ลงทุน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง