นายออง เย กุง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การติดเชื้อระลอกนี้เป็นเรื่องไม่คาดคิดมาก่อน และมีความแตกต่างกับประเทศอื่นตรงที่ ประเทศอื่นประสบปัญหาผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ แต่ที่สิงคโปร์กลับเจอในช่วงที่ประชากรมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
อองกล่าวต่อว่า สถานการณ์ที่ไม่เหมือนใครนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเฝ้าจับตามองจำนวนผู้ป่วยหนัก เพราะเรากำลังอยู่ในเส้นทางแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19
นายอองเสริมต่อว่า ด้วยจำนวนผู้ป่วยรายวันที่เพิ่มเป็น 2 เท่าทุกสัปดาห์ อีกไม่นานประเทศก็มีแนวโน้มว่าจะพบผู้ป่วยรายใหม่ในวันเดียวถึง 1,000 ราย ซึ่งสิ่งนี้คือเหตุผลที่สิงคโปร์ต้องให้ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้าน
ด้าน เคนเนท แมค ผู้อำนวยการฝ่ายบริการทางการแพทย์ของสิงคโปร์กล่าวว่า ปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยขั้นวิกฤตนั้น ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่พอๆกับผู้ติดเชื้อทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าระบบการรักษาพยาบาลยังสามารถรับมือได้ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่วางใจไม่ได้ ซึ่งเรายังจำเป็นต้องดูสถานการณ์ต่อไปในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าว่าแนวโน้มต่อไปจะยังคงเป็นอยู่แบบนี้หรือไม่
สิงคโปร์มีรายงานผู้ติดเชื้อรายวันล่าสุดที่ 910 ราย ซึ่งนับตั้งแต่การระบาดครั้งใหญ่ มีผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 8,000 ราย แต่กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ติดเชื้อนั้น ไม่ได้มีอาการรุนแรงมากนัก