นายบูดี กูนาดี ซาดิกิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซีย กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าเขากำลังพิจารณาถึงกลยุทธ์ที่สหราชอาณาจักรใช้ โดยการจัดลำดับความสำคัญในการรับวัคซีนเป็นอันดับแรก จนทำให้มีอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตที่ลดลง ดังนั้นหากมีการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 ครั้งให้ได้ที่เป้า 70 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรเป้าหมายทั้งหมด 208 ล้านคน ก็จะเริ่มเปิดประเทศใหม่ได้ ซึ่งจำนวนคนที่ต้องฉีดให้ได้จะอยู่ที่ 140 – 150 ล้านคน และหากเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็คาดว่าแผนการจะลุล่วงได้ภายในเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ดี การเปิดประเทศนี้ จะเป็นการอนุญาตเฉพาะชาวต่างชาติที่มีวีซ่าทางการทูตหรือวีซ่าทำงาน หรือมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นอื่นๆ เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอินโดนีเซีย แต่ข้อจำกัดจะยิ่งผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อการฉีดวัคซีนภายในประเทศแบบ”ครบถ้วน”สามารถไปถึงเป้าที่ 70 เปอร์เซ็นต์ได้เช่นกัน
ขณะนี้ อินโดนีเซียได้เดินหน้าฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเป้าหมายทั้งหมด แต่บูดีกล่าวว่าอัตราวัคซีนจะต้องเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเป็นฉีดให้ได้ 2 ล้านโดสต่อวัน และคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนแบบครบ 2 โดสให้ผู้คน 140 ล้านคนได้ ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
อินโดนีเซียบันทึกผู้ติดเชื้อโควิด 19 มากกว่า 4.1 ล้านรายและผู้เสียชีวิต 139,000 ราย แต่อัตราการตรวจพบการติดเชื้อนั้น ได้เริ่มลดลงไปอยู่ที่ 31% ในปลายเดือนกรกฎาคม จนเมื่อวานลดต่ำลงมาเหลืออยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น