ไม่ทอดทิ้ง “รมว.สุชาติ” มอบโฆษกเยี่ยมการฝึกอาชีพ กลุ่มผู้สูงอายุเชียงคาน

ไม่ทอดทิ้ง "รมว.สุชาติ" มอบโฆษกเยี่ยมการฝึกอาชีพ กลุ่มผู้สูงอายุเชียงคาน

วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) พร้อมด้วย นางสาวอาภากร ว่องเขตกรผู้ตรวจราชการกรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่เยี่ยมพบปะให้กำลังใจกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านต้นหล้าเชียงคานและภาคีเครือข่ายพัฒนา โดยมี นายวิระศักดิ์ แก้วบุดดา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานเลย นางไพรินทร์ แก้วกัญญา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านต้นหล้าเชียงคานและภาคีเครือข่ายพัฒนาและสมาชิกกลุ่ม ให้การต้อนรับ ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านต้นหล้าเชียงคานและภาคีเครือข่ายพัฒนา ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการเร่งส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีทักษะฝีมือ มีงานทำ มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ในวันนี้ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้ดิฉันพร้อมด้วย ผู้ตรวจราชการกรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านต้นหล้าเชียงคานและภาคีเครือข่ายพัฒนา ที่เชียงคาน จ.เลย ซึ่งจากการพบปะพูดคุยกับประธานกลุ่มและสมาชิก พบว่า กลุ่มนี้เป็นการรวมตัวของผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีสมาชิก 35 คน มีผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม เช่น พวงกุญแจดอกฝ้าย ยางมัดผมดอกฝ้าย เข็มกลัดดอกฝ้าย เป็นต้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางเธียรรัตน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเลย ได้เข้าไปฝึกอบรมหลักสูตร การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ตามโครงการพัฒนาผู้ประกอบกิจการสมัยใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าหรือบริการในชุมชน ซึ่งโครงการฝึกอบรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อยู่นอกระบบของการจดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐหรือสถานประกอบกิจการ และมีสินค้าหรือบริการที่ต้องการปรับปรุงธุรกิจและพัฒนาศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา เมื่อฝึกเสร็จทำให้ชาวบ้านได้นำความรู้จากการฝึกไปพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ จนทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังจากการฝึกอบรมอยู่ที่ประมาณคนละ 5,000 บาทต่อเดือน

โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจำหน่ายสินค้าซึ่งมีช่องทางการจำหน่ายที่ศูนย์ข้อมูลถนนคนเดินเมืองเชียงคาน และช่องทางขายสินค้าออนไลน์ทางเพจเฟสบุ๊ค Banton Lha Chang Khan อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"GILF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย ขยายผล เตรียมส่งดีเอสไอ ฟันเครือข่ายลักลอบฝังกลบขยะพิษในที่ดิน 2 แปลง จ.ฉะเชิงเทรา รวมกว่า 70,000 ตัน
"บิ๊กเล็ก" รับเงื่อนไข ให้ตัวแทนจีน-สหรัฐฯ ร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซียวันสุดท้าย เฉพาะ 7 ส.ค. ยันไม่กระทบหลักหารือทวิภาคี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​