“สกลธี” ชี้เลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เดิมพันอนาคตประเทศ มอง”ทักษิณ” กลับบ้านเรียกกระแส

"สกลธี" ชี้เลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เดิมพันอนาคตประเทศ มอง"ทักษิณ" กลับบ้านเรียกกระแส

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 66 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหาร และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่วัดวชิรธรรมสาธิต ซอยสุขุมวิท 101/1 และตลาดอุดมสุข กรุงเทพฯ ร่วมกับ นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 23 (พระโขนง-บางนา) หมายเลข 5 เพื่อพบปะประชาชน

นายตรีสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่ตนอยากจะผลักดันให้สำเร็จคือการพัฒนาคลองบางนาที่มีความยาวกว่า 40 กม. โดยเฉพาะการสร้างเขื่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ แต่ไม่เคยได้รับงบประมาณจาก กทม.ไม่ว่าในยุคผู้ว่าฯ คนไหน เพราะ กทม.มีงบพัฒนาไม่มาก และมีโครงการใหญ่ๆ เร่งด่วนต้องทำอยู่ตลอด จึงไม่มีเงินเหลือสำหรับการพัฒนาพื้นที่เฉพาะจุด ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล จะตั้งกองทุน 3 แสนล้าน นำเงินมาช่วยท้องถิ่นพัฒนาได้ ซึ่งพรรคฯ จะไม่ทำเฉพาะในเขต กทม.เท่านั้น แต่ต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กับ 5 จังหวัดใกล้เคียง เช่น การสร้างเศรษฐกิจชุมชน ต้องทำทั้งในเขตบางนา พระโขนง ราษฎร์บูรณะ พระประแดง ไปพร้อมกัน เพราะมีเรื่องราวผูกพันกันตั้งแต่ยังเป็นนครเขื่อนขันธ์ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งการพัฒนาแบบนี้ก็จะทำให้คนมีรายได้ มีความเข้มแข็ง ลดความจำเป็นในการพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐได้

นายตรีสิทธิ์กล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่งคือการนำข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครที่ให้รัฐสามารถนำเงินไปพัฒนาพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรที่โดนทิ้งร้าง ไปตราเป็นพระราชบัญญัติให้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ เพราะปัญหานี้ก็มีมากเช่นกันในต่างหวัด ซึ่งตรงตามความตั้งใจของพรรคพลังประชารัฐที่จะขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายสกลธีกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการเดิมพันอนาคตของประเทศ อยากให้ทุกคนตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราอยากเห็นประเทศเดินไปแบบไหน อยากให้ประเทศเดินหน้า ค่าครองชีพลดลง การทุจริตคอร์รัปชั่นลดลง ก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ หรืออยากให้ประเทศถอยหลัง มีการเดินขบวน เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างคน 2 รุ่นเพราะถูกปลุกระดมยุยงปลุกปั่น

 

ส่วนกรณีที่มีผู้เรียกร้องให้ กกต.ชี้แจงกรณีการตรวจสอบ 129 ชื่อผู้สมัคร ส.ส.ที่ถือหุ้นสื่อนั้น นายสกลธีกล่าวว่า เป็นเรื่องดีเพราะคนที่อาสามาทำงานให้ประชาชนต้องพร้อมรับการตรวจสอบและปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบทุกคนด้วยมาตรฐานเดียวกัน อันไหนที่เป็นข้อห้ามก็ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งตนไม่สบายใจที่ได้ยินแกนนำพรรคก้าวไกลหลายคนพูดในทำนองว่า หากเอากฎหมายมาดำเนินการการกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้น ITV ระวังจะมีมวลชนออกมาปะทะ เพราะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง หากทำผิดกฎหมายแล้วเอามวลชนออกมากดดัน ประเทศไม่มีทางสงบและปัญหาไม่จบแน่อน

 

 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่าจะกลับบ้านในเดือนกรกฎาคมนี้นั้น นายสกลธีกล่าวว่า เป็นการพูดแบบนี้ของนายทักษิณครั้งที่ 16 แล้ว ตนมองว่านี่เป็นการเรียกกระแสเพราะเห็นแล้วว่าไม่แลนด์สไลด์อย่างที่คิด จึงสื่อสารกับมวลชนของตนเองว่าถ้าอยากให้กลับบ้านก็เลือกกันเยอะๆ ซึ่งหากนายทักษิณจะกลับมาเมื่อไหร่ก็สามารถกลับได้ทันทีโดยไม่ต้องประกาศล่วงหน้า โดยมาเข้ากระบวนการตามกฎหมายเหมือนคนอื่นเท่านั้น

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวสุราษฎร์ 7 ชีวิต เดินเท้า 250 กิโลเมตร เข้าสู่ประจวบฯ ถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระพันปีหลวง
ยังไม่มีคำสั่งหน่วยเหนือ "ทหารกัมพูชา" แก้ตัวหน้าตาเฉย เมินเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดน มีแต่ทหารไทยทำฝ่ายเดียว
ตร.ท่องเที่ยวรุดช่วยนักท่องเที่ยวอเมริกันพลัดตกเขา “มังกี้เทล”
"โฆษก ทบ." ขอคนไทยมั่นใจ ย้ายอาวุธหนักได้ทัน หากเกิดปัญหาเขมรละเมิดข้อตกลง
โคราช จัดวิ่งกลางคืนแห่งเดียวในไทย โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ ทัพนักวิ่งแห่ร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คน
“นายกฯ” ขอคนไทยมั่นใจแม้ถอนอาวุธหนัก กลับที่ตั้งไกลชายแดน ยึดตาม 4 ข้อตกลง เจรจาสันติภาพ รับปมกู้ทุ่นระเบิด ยังมีอุปสรรคบ้าง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​