“สกลธี” สุดปลื้ม คนกรุงตอบรับนโยบาย“พปชร.” ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน

โดยใช้วิธีการยกยอนั้น ส่วนตัวมองว่ากองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท ตอบโจทย์ทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับกรุงเทพฯ และท้องถิ่น เช่น การยกระดับให้ชุมชนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และช่วยให้จับปลาได้เยอะขึ้น พร้อมช่วยในส่วนกระบวนการแปรรูป ซึ่งต้องใช้คนในพื้นที่ อย่าง น.ส.แพรว เข้ามาช่วยในจุดนี้

นายสกลธี กล่าวว่า หลังจากเสร็จภารกิจจุดนี้ จะเดินทางไปต่อที่ค่ายมวยไชยา เขตประเวศ ซึ่งเป็น soft power อย่างหนึ่ง และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯมากขึ้น รายได้หลักของประเทศมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งหลังโควิด-19 ทางรัฐบาลและท้องถิ่นต้องช่วยกันเร่งให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้เงินในประเทศกันเยอะๆ เพื่อให้เงินหมุนเวียนและเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานรากไปภาพใหญ่ โดยปกตินักท่องเที่ยวจะอยู่ในกรุงเทพฯประมาณ 4 วัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐต้องการขยายให้กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต เป็นแหล่งเรียนรู้ วัฒนธรรม และตลาดสด ซึ่งชาวต่างชาติชื่นชอบสตรีทฟู้ด ไม่จำเป็นจะต้องอยู่แค่เยาวราช สีลม หรือถนนข้าวสาร ซึ่งแต่ละเขต มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป สามารถนำมาชูได้ หากทำได้ดีจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นหมุดหมายพี่นักท่องเที่ยวสามารถมาอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในกรุงเทพฯตามไปด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผู้สมัครพรรคพปชร.จ.นครราชสีมา ถูกกล่าวหาซื้อเสียง และกกต.กำลังเร่งพิจารณานั้น นายสกลธี กล่าวว่า วานนี้ (29 เม.ย.) พรรคได้แถลงแล้วซึ่งกรณีโคราช ซึ่งตนมองว่าต้องใช้วิจารณญาณ โดยก่อนหน้านี้ส่วนตัวได้ดูการวิเคราะห์ของสื่อช่องนึงได้รวบรวมกลโกงการเลือกตั้ง ต้องดูด้วยว่ามันเกิดขึ้นกับคนที่แจกเงินกลางวันแสกๆ และถือหมายเลขผู้สมัครพร้อมเงินติดไปด้วย มันสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเป็นอาจจะเป็นการแกล้งกันของฝ่ายคู่แข่งก็ได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้ประชาชนทุกคนช่วยกันดู และพิสูจน์ ว่า ทางผู้สมัครหรือคนที่ดูแล ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยไปแจ้งความดำเนินคดี ให้เจ้าหน้าที่พนักงานตำรวจเข้ามาตรวจดูในส่วนนั้นแล้ว