“จุรินทร์”” เปิดนับหนึ่งจัดทำ FTA ไทย-อียู ตั้งเป้าแล้ว เสร็จภายใน 2 ปี

รมว.จุรินทร์ เปิดนับหนึ่งเจรจา FTA ไทย-อียู สร้างแต้มต่อ ”สินค้า-บริการ-ลงทุน” ไทยกับ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เดินหน้าสร้างเงิน สร้างอนาคตประเทศ เตรียมเริ่มต้นเจรจาระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสในเดือนก.ค.นี้ โดยไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรก เมื่อได้ข้อตกลงครบทุกหัวข้อจะนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาต่อไป ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายใน 2 ปี

วันนี้ (15 มี.ค.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า นายวัลดิส ดอมบรอฟสกิส (Mr.Valdis Dombrovskis) ผ่านระบบ VC เพื่อเริ่มเปิดการเจรจานับหนึ่ง FTA ไทยกับสหภาพยุโรป หลังจากที่นายจุรินทร์ได้เดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาและนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของ 2 ฝ่าย ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ประกาศนับหนึ่งอย่างเป็นทางการเริ่มต้นเจรจาทำ FTA ระหว่างไทย-อียู สองฝ่าย เกิดจากความพยายามของไทยกับสหภาพยุโรปกว่า 10 ปี แต่ติดขัดช่วงที่ผ่านมา ครั้งหลังสุดตนนำคณะเดินทางไปพบกับท่านวัลดิส ดอมบรอฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้าที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียมเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา มีความเห็นร่วมกันนำไปดำเนินการภายในทั้ง 2 ฝ่าย ตนได้นำเรื่องเห็นชอบผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา และคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ

นายจุรินทร์ ระบุว่า วันนี้ตนได้พบกับท่านดอมบรอฟสกิสอีกครั้ง ประกาศร่วมกันอย่างเป็นทางการนับหนึ่งการจัดทำ FTA ไทย-อียู ตั้งเป้าเสร็จภายใน 2 ปี คือปี ค.ศ.2025 หรือ พ.ศ.2568 ซึ่งรายละเอียดหัวข้อทั้งเรื่องการค้าสินค้า บริการและการลงทุนระหว่างกัน จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และไทยจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากการจัดทำ FTA ครั้งนี้ ที่ชัดเจนสำหรับไทย คือ

1. เมื่อมีผลบังคับใช้ ภาษีการส่งออกสินค้าไทยไปสหภาพยุโรป 27 ประเทศในที่สุดจะเป็นศูนย์ สามารถแข่งขันด้านราคาและมีแต้มต่อกับประเทศที่ไม่ได้ทำ FTA กับอียู เช่น ยานยนต์และส่วนประกอบ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เสื้อผ้าสิ่งทอ อาหาร ยางพารา เคมีภัณฑ์และพลาสติก เป็นต้น

2. ภาคบริการ จะได้สิทธิพิเศษ ไทยมีความเชี่ยวชาญในภาคบริการหลายด้าน เช่น ค้าส่ง-ปลีก การผลิตอาหารและการท่องเที่ยว เป็นต้น

3. การนำเข้าวัตถุดิบภาษีก็จะเป็นศูนย์เช่นเดียวกัน ภาคการผลิตของเราจะลดต้นทุนการผลิตได้ โดยเฉพาะการนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์และเคมีภัณฑ์

4. การแลกเปลี่ยนการลงทุนระหว่างกันของทั้ง 2 ฝ่าย ไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม

5. จะมีส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกมาลงทุนในไทย เพิ่มตัวเลขการลงทุน เพิ่มจีดีพีให้ประเทศ

6. ทำให้ไทยเพิ่มจำนวน FTA มากขึ้นจากปัจจุบันมี 14 ฉบับกับ 18 ประเทศจะเพิ่มเป็น 15 ฉบับกับ 45 ประเทศในทันทีที่มีผลบังคับใช้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ในอาเซียนที่สหภาพยุโรป 27 ประเทศตกลงทำ FTA ด้วย (มีเวียดนามและสิงคโปร์)

สหภาพยุโรป 27 ประเทศ มีประชากรรวมกันประมาณ 500,000,000 คน เป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 4 ของไทย มีสัดส่วนมูลค่าการค้ากับไทย 7% ที่ไทยค้ากับโลก ตัวเลขการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปปี 2565 ประเทศไทยได้ดุลถึง 150,000 ล้านบาท ดังนั้น ในการทำ FTA กับอียู ที่ได้นับหนึ่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์เป็นประโยชน์อย่างยิ่งไทยและกับอียูเช่นเดียวกันในหลากหลายมิติ โดยหลังจากนี้จะเริ่มต้นการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสในเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรก และเมื่อได้ข้อตกลงครบทุกหัวข้อประเทศไทยจะนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาต่อไป เพื่อให้สัตยาบัน ขณะที่ทางด้านของอียูก็จะดำเนินการทางฝั่งอียูเช่นเดียวกัน

นายจุรินทร์ ระบุว่า หลังจากลงนามบังคับใช้ได้ จะเป็นการสร้างเงิน สร้างอนาคตครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งให้กับประเทศไทย โดยจะมีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพหลักในการเจรจา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว RCEP ก็จบในยุคที่ตนกับอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ(นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) ทำหน้าที่ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ยุคนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า นายวัลดิส ดอมบรอฟสกิส ได้โพสต์ผ่านทวิสเตอร์ Valdis Dombrovskis ทันที ความว่า อียู-ไทย ฟื้นการเจรจาข้อตกลงทางการค้า ตนยินดีอย่างยิ่งต่อการฟื้นการเจรจากับไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในอาเซียนความตกลง FTA ไทย-อียู ที่ทันสมัย มีพลวัต จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย จะเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์ทางการค้าของอียูกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กัมพูชา" ยอมรับแล้ว เหตุปิดจุดผ่อนปรนช่องอานม้า ประท้วงไทยปรับเวลาก่อน ขู่ซ้ำต้องกลับมาเปิด-ปิดด่าน ให้เป็นปกติ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ารับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของโลก ในการประกวดเวทีออสการ์อาหารโลก ปี 67
ศน. จัดโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ทำบุญตักบาตร ยลวิถีลาวเวียง” ส่งเสริมชุมชน–น้อมธรรมสู่ชีวิต
"ปชป." ประชุม 3 ชั่วโมง ไม่มีคำตอบชัด ๆ ให้รอแถลงการณ์ ลายลักษณ์อักษร หลังเจรจาเพื่อไทย
เริ่มแล้วที่แรก! จ.ลำพูน กิจกรรมขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า “ศิลปินสร้างศิลปิน”
“พีระพันธุ์” อุบมติรทสช. ขอคุย “แพทองธาร” เรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ผุดไอเดีย “ชัยเกษม” นั่งนายกฯแทน
GLO จัด "Kid Dee Roadshow" เสริมเกราะใจไซเบอร์ให้เยาวชนใต้ รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภราดร” เข้ากราบลา “วันนอร์” หลังลาออก รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ขอบคุณไว้วางใจ นับเป็นเกียรติได้ทำหน้าที่
"วราวุธ" แถลงชาติไทยพัฒนา ประชุม สส.-กก.บห.ไม่ถอนตัว รอคุยนายกฯเพิ่ม เกิดอะไรขึ้น
"สิบเอกสังกัดกอ.รมน." เครียดปัญหาส่วนตัว เบิกเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปลิดชีพคาหน่วย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น