จ.ตราด/ หลังจากรัฐบาลทำโครงการคนละครึ่งพลัสขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยและลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม -31 ธันวมคม 2568 นั้น ปรากฏว่าจังหวัดตราดมีชาวตราด และร้านค้าเข้าร่วมโครงการนี้จำนวนมาก และจากการที่เริ่มใช้โครงการคนละครึ่งพลัสที่ผ่านมาได้สร้างความคึกคักต่อการค้าขายของจังหวัดจำนวนมาก
นาย ณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า หลังที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ในการเป็นเครื่องมือในการลดรายจ่ายเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน เพิ่มรายได้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี และเพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบการ OTOP ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่มีการเริ่มโครงการคนละครึ่งพลัส มาได้ 1 สัปดาห์ พบว่า ชาวตราดได้ใช้บริการคนละครึ่งพลัส จำนวนมากและสร้างรายได้ให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจำนวนมาก และสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของจังหวัดตราดเพิ่มขึ้น ซึ่งจากรายงานของคลังจ.ตราดพบว่า มีร้านค้าเข้าร่วม 3,137 ร้านค้า และมีการใช้จ่ายรวม 49.22 ล้านบาทแล้ว
หรือเฉลี่ยวันละ 7.03 ล้านบาท

“ที่ผ่านมา ผมได้ขอให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อำนวยความสะดวกในการรับสงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้าในระดับพื้นที่ ตำบล/ชุมชนและเพิ่มจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้ทั่วถึงและคลอบคลุมในทุกลุ่มร้านค้า รวมทั้งมอบหมายสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตราดและอำเภอ เชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า/ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมโครงการฯ และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า OTOP เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระดับชุมชน เช่น การจัดตลาดนัดสินค้า OTOP เป็นประจำทุกสัปดาห์ ณ ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอ ซึ่งเป็นผลให้โครงการคนละครึ่งพลัสเกิดความเคลื่อนไหวทางการเงินอย่างคึกคัก“
นายพงศกร รอดนิมิต ผู้จัดการอาวุโสธนาคารกรุงไทย สาขาตราด เปิดเผยว่า การออกหน่วยให้บริการในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดจุดบริการแบบ One Stop Service เพื่อให้ร้านค้าสามารถดำเนินการทุกขั้นตอนได้ครบจบในที่เดียว โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครองมารับรองข้อมูลร้านค้า และเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ครบถ้วนในการลงทะเบียน ซึ่งช่วยลดขั้นตอนและเวลาในการติดต่อหลายหน่วยงาน



