จากกรณีที่มีสื่อมวลชนบางสำนักได้นำภาพของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว และการ์ตูนที่ใส่ชื่อของเอ็ดดี้ พร้อมทั้งข้อความระบุว่า “การแฉกลุ่มทุนสีเทาที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมากล่าวถึง “สารวัตรซัว” พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ดำรงตำแหน่งสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง รับเงินเดือน (ระดับ) ส.3 ขั้น 14 เงินเดือน 32,450 บาท ซึ่งตอนนี้ ให้ออกจากราชการ และถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณีละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกัน เกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร “เป็นต่อกรุ๊ป” ถือเป็นบริษัทที่ถูกโยงและมีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางของเงินที่ถูกต้องต่อไป ยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งแวดวงสีกากี และนักการเมืองพรรคใหญ่ ปัจจุบันมีข้อมูลว่า “สารวัตรซัว” ได้เข้าไปลงทุนในกัมพูชาเพิ่มเติม #สารวัตรซัว #ทุนสีเทา #พนันออนไลน์ #ชูวิทย์ #แฉ” มีความเชื่อมโยงกัน
“บิ๊กแจง” ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่มีเอี่ยวแก๊ง “สารวัตรซัว” แต่รู้จักกันในฐานะพี่น้องร่วมโรงเรียน ภ.ป.ร. เท่านั้น ลั่นจะฟ้องกลับหากหยุดโยงพัวพันเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งทางทีมข่าวท็อปนิวส์จึงได้โทรศัพท์กับ พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง หลังจากที่มีภาพปรากฏในเพจเฟซบุ๊ก ของสื่อบางสำนัก ซึ่งเจ้าตัวไปออกมาปฏิเสธว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ตามที่ปรากฏเป็นข่าว พร้อมทั้งระบุว่า จะฟ้องกลับหากยังมีการพาดพิงถึงตนเองอีก ส่วนกรณีที่สารวัตรซัว อ้างว่ามีความสนิทสนมกับตนเองนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องจริง ตนเองรู้จักกับสารวัตรซัวในฐานะพี่น้องร่วมโรงเรียน ภ.ป.ร. ซึ่งห่างจากกันถึง 20 รุ่น แต่สารวัตรซัวอาจจะรู้จักตนเอง เนื่องจากตนเองเป็นเลาฯ สมาคม ภ.ป.ร. จะมีใครบ้างที่ไม่รู้จัก พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่เคยอุ้ม สารวัตรซัว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉว่า มีนายพล จ. มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว จนทำให้มีคนเข้าใจว่าเป็นตนเองนั้น ซึ่งเรื่องนี้ ตนเองได้โทรไปคุยกับนายชูวิทย์ แล้ว ซึ่งนายชูวิทย์ เข้าใจผิดว่าตนเองอยู่เบื้องหลัง แต่ข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกัน หากจะกล่าวถึงสารวัตรซัว นั้น เคยอยากจะเข้ามาให้กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ เมื่อครั้งที่ตนเองดำรงตำแหน่งอยู่ ซึ่งตนเองเป็นคนตัดชื่อสารวัตรซัว ออกจากการเข้ามารับตำแหน่งในกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์เอง ซึ่งในเรื่องนี้นายชูวิทย์ ได้ทราบแล้ว ส่วนเรื่องของเงินจำนวนมหาศาลตามที่สื่อฯ พยายามเชื่อมโยงมาถึงตนเองนั้น ขอบอกตามตรงว่า ตนเองไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากทุกวันนี้ยังต้องกู้เงินสหกรณ์อยู่เลย รวมถึงเรื่องที่มีการโยงว่าร่วมหุ้นกับสารวัตรซัว เปิดบริษัท นั้นก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนเองรับราชการ ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ หากจะตรวจสอบความก็ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม ตนเองยอมให้ตรวจสอบได้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง