No data was found

เจาะลึก “สารวัตรซัว” ตำรวจเจ้าพ่อเว็บพนัน รวยระดับเจ้าสัว

กดติดตาม TOP NEWS

เจาะลึก “สารวัตรซัว” ตำรวจเจ้าพ่อเว็บพนัน รวยระดับเจ้าสัว

 

เปิดภูมิหลัง สารวัตรซัว เจ้าของเป็นต่อกรุ๊ป บุคคลที่นายชูวิทย์ ออกมาแฉเป็นเจ้าพ่อเว็บพนันออนไลน์ระดับประเทศ แท้จริงคือใคร? เหตุไฉน ตำรวจยศแค่นายพัน ถึงมีเงินหมื่นล้านระดับเจ้าสัว

 

ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมต่างให้ความสนใจกับการทลายเครือข่ายเจ้าพ่อพนันออนไลน์ในประเทศไทย เมื่อล่าสุดมีการออกมาแฉข้อมูลสำคัญจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ผุ้โชกโชนวงการธุรกิจสีเทาของเมืองไทย สร้างแรงสะเทือนครั้งใหญ่ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะรายชื่อที่ถูกเปิดเผยขึ้นนั้น คือ สารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล ตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ซึ่งเป็นเจ้าของเครือเป็นต่อกรุ๊ป ผู้ถือครองเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ยิ่งกว่า มาเก๊า 888 ของ 4 พี่น้องตระกูล 4 บ. หลายเท่า เรียกได้ว่า มาเก๊า 888 แค่ไซส์ S แต่ สารวัตรซัว นี่ไซส์ L กันเลยทีเดียว

หลังมีการเปิดเผยชื่อ สารวัตรซัว เจ้าพ่อเว็บพนันออนไลน์จาก นายชูวิทย์ ชื่อนายตำรวจคนได้ยึดพื้นที่หน้าหนึ่งของสื่อมวลชน เบียด 4 พี่น้องตระกูล บ. ตกขอบแทบจะทันที เนื่องจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน กลับกลายมาเป็นคนกระทำผิดเสียเอง ภาพลักษณ์องค์กรสีกาสีที่นับวันจะเสือมมนต์ขลังในสายตาประชาชนลงทุกที ยิ่งลดทอนความน่าเชื่อถือลงไปอีก ถึงชนิดที่ว่า เครื่องแบบพิทักษ์ 1 ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องเลอะโคลนสีเทาไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใน จนต่อมามีการลงดาบคำสั่งให้ สารวัตรซัว ออกจากราชการไว้ก่อน ฐานละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ทางราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันในคราวเดียวกัน เป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุอันสมควร

ข่าวที่น่าสนใจ

แน่นอนสายตาจากสังคมจับจ้องไปที่ สารวัตรซัว คนนี้แล้ว ย่อมอยากรู้ประวัติความเป็นมาของนายตำรวจผู้ถูกเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์นี้อย่างแน่นอน วันนี้ทีมข่าว Top News จึงค้นหาข้อมูลมาไล่เรียงให้ทราบกัน สารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล ปัจจุบันอายุ 37 ปี เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2529 เมื่อย้อนลึกไปอีกตั้งแต่สมัยเรียนพบว่า ประวัตรของสารวัตรซัว นายนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะเคยเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเก่าแก่แห่งหนึ่ง ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม เข้าเรียนในรุ่นที่ 35 และเป็นนักกีฬารักบี้ของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนนี้มีพี่น้องที่เป็นข้าราชการตำรวจ ทหาร ที่เป็นศิษย์เก่าจำนวนมาก โดยเฉพาะ 2 พี่น้องฝาแฝดอย่าง

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ซึ่งปัจจุบันนั่งเก้าอี้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ปัจจุบันเป็นผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือ สอท.1 ซึ่งทั้ง 2 นายเป็นศิษย์เก่ารุ่น 15 ด้วยเหตุนี้ทำให้ สารวัตรซัว มีความสนิทสนมกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องกัน

จากนั้นสารวัตรซัว ได้เข้าเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อจบแล้วจึงเข้าอบรม หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2553 ในตำแหน่ง รองสารวัตร ฝ่ายโยธาธิการ 2 ยุค พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากนั้น ปี2559 ขยับขึ้นนมาเป็นรองสารวัตร กลุ่มงานสนับสนุนคดีเทคโนโลยี กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กระทั่งปี 2560 ได้เป็นสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และ ปี 2562 เป็นสารวัตร สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ

 

นอกจากจะเป็นตำรวจแล้ว สารวัตรซัว ยังทำธุรกิจควบคู่ไปด้วย ภายใต้กลุ่มบริษัท เป็นต่อ กรุ๊ป ซึ่งนายชูวิทย์ ถือเป็น องค์กรอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ ที่มีบริษัทย่อย ๆ โดยมีดังนี้

 

1. Pentor Exchange by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด) ทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

2. PT Software by Pentor Group (บริษัท พีที ซอฟแวร์ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด) ทำธุรกิจผลิต และพัฒนาซอฟแวร์คอมพิวเตอร์

3. Pentor Property by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ พร็อพเพอร์ตี้ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์

4. Pentor Entertainment by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด) ทำธุรกิจสถานบันเทิง เช่น Tomorrowland Exclusive lounge, Dubai Luxury Club

5. Snocko Technology (บริษัท สน็อคโค เทคโนโลยี จำกัด) ทำธุรกิจผลิตบุคลากรวงการคอมพิวเตอร์

6. AMB Games (บริษัท เอเอ็มบีเกมส์ จำกัด) ทำธุรกิจให้บริการเกมส์ออนไลน์

7. Esyms ทำธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มเภสัชกรออนไลน์

8. สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด

9. มูลนิธิ เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด

10. บริษัท ลาลิซ่า 2020 จำกัด ทำอาบอบนวด “ลาลิซ่า” (ซื้อต่อมาจากกำพล วิคตอเรีย)

โดยบริษัทที่ทำธุรกิจหลัก ๆ คือการเขียนโปรแกรม สร้างแอป เกมส์ออนไลน์ต่าง ๆที่ มีการเติมเงิน เสียเงินในการเล่น , เว็บพนันออนไลน์ ,เว็บรับแลกเปลี่ยน โอนเงินไปประเทศจีน รวมถึงแอปซื้อขายยา ผ่านเภสัชกร นอกจากนั้นยังมีการจัดทำมูลนิธิชื่อเป็นต่อ กรุ๊ป ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยพบว่า ยังไม่ได้จดทะเบียน และยังมีการจัดทำสหกรณ์ออมทรัพย์ ให้พนักงานในบริษัทได้ฝาก กู้ยืม และธุรกิจล่าสุดที่มีการไปซื้ออาบอบนวด โคปาบาน่า จากเสี่ยกัมพล ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น ลาลิซ่า

 

จากการตรวจสอบเส้นทางธุรกิจของสารวัตรซัว ในต่างประเทศ ยังพบว่า มีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัทในเมืองไพลิน ประเทศกัมพูชา 2 บริษัท คือ 1.ไพลินนารี เดเวอร์ลอปเปอร์ และ 2.สมาร์ท แม่โขง ซึ่งทั้ง 2 บริษัทระบุวัตถุประสงค์ ว่าประกอบกิจการเกี่ยวกับโรงแรมและการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ คือ ปรากฎชื่อของเป็นต่อกับเพื่อนคนไทยอีก 1 คน ร่วมเป็นกรรมการบริษัท แต่เมื่อเจาะลึกลงไปกลับพบชื่อ คุณ ชี เกีย (Chea Kea) นักธุรกิจกัมพูชา เจ้าของโรงงานอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ใน จ.ไพลิน ร่วมเป็นกรรมการบริษัทกับ สารวัตรซัว อีกด้วย

 

นอกจากบริษัทของตัวเองแล้ว ยังพบข้อมูล สารวัตรซัว ร่วมหุ้นกับ ร.ต.ท.มานัส เติมธนะศักดิ์ ดาบมานัส ลอยฟ้า ภายใต้บริษัท ในหัว กรุ๊ป จำกัด ยังปรากฎตัวเป็นข่าวช่วงปลายปี 2564 เปิดตลาดสดไชยทิศ ย่านฝั่งธนบุรี รับระบายผลผลิตจากเกษตรกรฟรี โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาร่วมงานด้วย ซึ่งตลาดแห่งนี้บริหารงานในรูปแบบบริษัท ในหัว กรุ๊ป จดทะเบียนในปี 2555 ด้วยทุน 200 ล้านบาท ปรากฎชื่อของ สารวัตรซัว และ “ดาบมนัส” ผู้ถูกพาดพิงเป็นเจ้าของ “บ่อนลอยฟ้า” เป็นกรรมการบริษัทร่วมกันอีกด้วย

 

จากการตรวจสอบธุรกิจของสารวัตรซัว หรือ เป็นต่อ กรุ๊ป พบความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มธุรกิจสีเทาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล้วนเกี่ยวพันกับวงจรบ่อนการพนัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของ สารวัตรซัว อาจเกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งจำนวนเงินมหาศาลจนทำให้ตำรวจยศเพียงแค่สารวัตร เงินเดือนประจำตำแหน่งเพียงหลักหมื่น และที่สำคัญอายูเพียง 3 สิบปลาย ๆ เท่านั้น แต่เหตุใดถึงได้ร่ำรวยแบบก้าวกระโดดขึ้นมาอยุ่ในระดับมหาเศรษฐีของเมืองไทยเพียงไม่เวลาอันรวดเร็ว เชื่อว่าคำตอบเล่านี้คงมีมาเพียเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่จะสามารถหาคำตอบมาคลายปมสงสัยแก่สังคมนี้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมโภชใหญ่ พระแท่นวัชรอาสน์ จำลอง สวดธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร ถวายเป็นพระราชกุศล
'นายกไก่' ขอไฟสว่างด่วน! เกรงชาวบ้านทุกข์นาน เหตุไฟทางดับ
ศรชล./ศคท.จว.ชบ. นำกำลังพล ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ตามโครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ
"เอ๋ ปารีณา" เคลื่อนไหวเดือดถึง "ก้าวไกล" ชี้สังคมต้องเห็นต่างกันได้ ปมแจ้ง 112 "โน้ส อุดม" พร้อมประกาศจุดยืนชัด
พ่อเปิดใจ เล่าอาการล่าสุดลูกชาย 1 ใน เหยื่อ "สารเคมีระเบิด" มาบตาพุด ร่างกายบอบช้ำมาก
“ประภัตร” จัดเต็ม เปิดบ้านทรงไทย แห่กลองยาวต้อนรับ “นายกฯ” เยือนสุพรรณบุรีครั้งแรก
“สุทิน” แจงปมดราม่าซื้อข้าวค้างโกดังให้ทหารกิน ถูกนำไปบิดเบือน ลั่น “ทหารเกณฑ์” ต้องกินดีมีคุณภาพ
จับต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองคาอุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยใช้เส้นทางธรรมชาติ
"ภรรยา" สุดเศร้ารับศพ "สามี" เหยื่อถังเก็บสารเคมีระเบิด กลับบ้านเกิดเชียงราย เตรียมประกอบพิธีทางศาสนา
"ดร.อานนท์" จวกอีกชุดใหญ่ "ส.ศิวรักษ์" อ้างมั่ว ร.7 เขียนสมุดปกขาว วิจารณ์โครงการศก."ปรีดี"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น