“ศรีสุวรรณ” จี้ดีอีเอส สั่งเชือดปิด “ลาซาด้า-เพจเครปกระเทย” ฐานก้าวล่วงสถาบัน

เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอให้ใช้อำนาจยื่นต่อศาลฯสั่งปิดเว็บไซต์ แพลตฟอร์มขายสินค้า ขณะที่ตัวแทนกระทรวงดิจิทัลฯ ระบุว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานส่งศาลฯ พิจารณาตามขั้นตอน

วันที่ 9 พ.ค. 65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการขอให้ศาลพิจารณาสั่งปิดแพลตฟอร์ม Lazada และเว็บเพจนารา เครปกระเทย ที่ได้จัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอ และภาพนิ่งโปรโมทแคมเปญสินค้าลดราคาในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาในลักษณะพาดพิง ก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง และบูลลี่คนพิการ อันกระทบต่อศีลธรรมจรรยา เกิดความแตกแยกในสังคม และกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยมีนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้มารับหนังสือ

นายศรีสุวรรณ กล่าวถึงกรณีเว็บเพจนารา เครปกระเทย หรือนายอนิวัติ ประทุมถิ่น  หรือ นาราเครปกระเทย จะได้ออกมาภาคเสธต่อการกระทำดังกล่าว แต่การที่บริษัทเอเยนซี่ และบริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อกรณีดังกล่าว ก็เป็นการยอมรับในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แม้คำขอโทษจะปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆก็ตาม แต่เนื่องจากพฤติการณ์และการกระทำที่เกิดขึ้นปวงชนชาวไทยที่เทิดทูล เคารพศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์จึงมิอาจยอมรับและให้อภัยได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน นายเวทางค์ กล่าวถึงการรับเรื่องราวร้องทุกข์ประเด็นนี้ ว่ามาตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ปอท.มาตลอด และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า การกระทำลักษณะนี้ มีความผิดเข้าข่ายพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ และความผิดอื่นๆประกอบด้วยหรือไม่

ส่วนการปิดกั้นเว็บไซต์อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งเรื่องให้ศาลฯ พิจารณาตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่การปิดกั้นเว็บไซต์จะพยายามให้กระทบกับผู้ค้าที่ขายสินค้าในเว็บไซต์ดังกล่าว ให้น้อยที่สุด

 

สำหรับกรณีดังกล่าว ถือเป็นความผิดทางอาญา หลายกรรม หลายวาระ อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ประกอบมาตรา 14(3) แห่ง พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 เป็นอำนาจหน้าที่ของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอไปยังอัยการ เพื่อยื่นต่อศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษขั้นสูงสุดต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จันทบุรี จัดทีมปล่อยแถวออกตรวจสอบเฝ้าระวังโดรนต้องสงสัยเต็มรูปแบบ
"ศุภชัย"ลั่นไม่มีใครบุกรุกเขากระโดง ย้อนคดีโบราณสถานเขาน้อย ผิดโดนโทษจำคุก โยงเป็นญาติ "เดชอิชม์"
มุกดาหาร ร้อย ฉก ทพ 2105 บูรณาการหน่วยความมั่นคงตรวจยึดบุหรี่และอาหาร 17 ลัง
เช็กเลย ราคาน้ำมันประกาศปรับขึ้น "ราคาเบนซิน - แก๊สโซฮอล์" 40 สตางค์/ลิตร มีผล 5 ส.ค.68
"คีรี" นำทีมผู้บริหาร "บีทีเอส กรุ๊ป" จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น แจ้งผลดำเนินงานปี 67/68 พลิกสร้างกำไรกว่า 2 พันล้าน มาตรฐานธุรกิจติดอันดับผู้นำ 1% แรก กลุ่ม TRA
ธอส.ออกมาตรการพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี และลดอัตราดอกเบี้ย ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​