วันที่ 19 มิ.ย. –ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในพรรคพังประชารัฐ ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นเลขาธิการพรรค ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นสิทธิของพรรคการเมืองที่จะเลือกบุคคลใดมาบริหารพรรค ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถก้าวล่วงได้ เราก็ทำหน้าที่ของเรา และเมื่อมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ถึงตอนนั้นเราก็สู้เต็มที่ ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีใครเป็นเลขาธิการพรรค เมื่อมีการเลือกตั้งก็ต้องเข้าสู่ครรลองประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาธิปัตย์กังวลเรื่องพื้นที่หรือไม่ โดยเฉพาะในภาคใต้ เพราะล่าสุดร.อ.ธรรมนัส สามารถพาส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ชนะมาได้ นายราเมศ กล่าวว่า เราไม่ได้กังวล เพราะปกติ ร.อ.ธรรมนัสก็ดูแลเรื่องการเลือกตั้งอยู่หลายเขต ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดี เราพร้อมต่อสู้ในระบอบในระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ส่วนที่อาจจะเกิดเทศกาลดูส.ส.เข้าพรรคนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีว่า พรรคพลังประชารัฐจะมาดึงตัวไปอยู่ด้วย ทั้งนี้เราอยากเห็นการเมืองที่พัฒนา ไปเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการทำงานการเมืองต้องทำแบบตรงไปตรงมาก็จะเป็นผลดีที่สุด
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคก็เดินหน้าเต็มที่ไม่กังวลว่าจะยุบสภาในเวลาใด เราพร้อมที่จะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้พรรคมีการจัดตั้งตัวแทนสาขาพรรคไว้แล้วปะมาณ 323 เขต จาก 350 เขต และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯและรมว.พณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ได้ทำพื้นที่ โดยใช้โครงการ “จุรินทร์ ออนทัวร์” ออกไปพบปะและรับฟังปัญหาประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับพรรค
นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับกาประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนด เนื่องจากยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ และทางคณะกรรมการเลือกตั้งก็ไม่ได้กำหนดว่าพรรคการเมืองจะต้องประชุมให้เสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองจะแจ้งให้ทราบว่าจะประชุมเมื่อไร ซึ่งหากจะมีการประชุมใหญ่ฯ พรรคก็ต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดวาระการประชุม ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการพูดคุยกันเร็วๆ นี้