No data was found

อุดรธานี พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย

กดติดตาม TOP NEWS

โควิด19ที่ อุดรธานี พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียหายแล้ว 3 ยังนอนโรงพยาบาลอีก1

วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00 น. นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า  สำหรับสายพันธุ์อินเดียที่พบใน จ.อุดรธานี ผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ได้รักษาหายและกลับบ้านไปแล้ว 3 ราย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุมภวาปี 1 ราย และไม่มีอาการแทรกซ้อนทางปอด เป็นผู้ป่วยที่ต้องนอนอยู่โรงพยาบาล เพื่ออยู่ดูอาการให้ครบ 14 วัน หลังจากนั้นก็จะต้องดูแลเข้มข้นกักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน เพราะว่าสายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์อังกฤษความรุนแรงจะเท่ากัน  ความเร็วในการแพร่เชื้อก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก โดยผู้ป่วยทั้ง 4 ราย รายแรก (409 )  เป็นผู้หญิง 24 ปี  อ.โนนสะอาด ทำงานอยู่เขตปทุมวัน เช่าบ้านอยู่ที่หลักสี่ แจ้งวัฒนะ กทม.กลับมาอุดรธานีพร้อมกับสามี ตรวจพบเชื้อทั้งสองราย แต่แยกตรวจแยกสายพันธ์พบว่าภรรยาติดสายพันธุ์อินเดีย กลุ่มเสี่ยง 8 ราย  ตรวจครั้งที่ 1 ไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม  ผลยังไม่ออก

สำหรับรายที่ 2 ( 413)   ผู้หญิง  26 ปี อ.บ้านดุง ทำงานรับจ้างที่หลักสี่ กทม. มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 15 พฤษภาคม  ไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 ไม่พบเชื้อ ไม่มีการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น  รายที่  3 (412)  เด็กหญิง 13 ปี อ.กุดจับ  ไปอยู่กับพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ กลับมาอุดรธานี อยู่กับคุณตาคุณยาย สัมผัสเสี่ยงสูงญาติและเพื่อนบ้าน 10 ราย   ตรวจพบเชื้อ 1 รายคือคุณตา อีก 9 ราย ตรวจ 2 ครั้งไม่พบเชื้อ แต่รอผลคุณยาย ผลน่าจะออกวันนี้  รายที่ 4 (449) ผู้ชาย 53 ปี  อาชีพรับเหมาก่อสร้างที่หลักสี่ กทม.โดยสารรถตู้กลับมา จ.อุดรธานี พร้อมกับทีม จ.นครพนม ลงที่ จ.อุดรธานี 1 คน ก็ตรวจพบเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย ตรวจ 2 ครั้งไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 3 รอผล

รายที่ 1-3 ได้กลับบ้านไปแล้วไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่มีความรุนแรง ส่วนรายที่ 4 ยังนอนอยู่ รพ.กุมภวาปี ไม่มีอาการร้ายแรง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่ปอด สำหรับผู้ป่วยเมื่อกลับไปบ้านแล้ว จะกักตัวอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อสู่บุคคลอีก เพาะฉะนั้นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะมีการเฝ้าระวัง มีการกักตัวอย่างเข้มงวดไม่ให้แพร่ระบาดในพื้นที่ จ.อุดรธานีอีก

ส่วนการฉีดวัคซีนรอบ แอสต้าเซเนก้า ในวันที่ 7 มิถุนายน ท่านนายกรัฐมนตรี บอกว่าได้ฉีดแน่ๆ ซึ่งจังหวัดอุดรธานี ที่ผ่านมาได้จองวัคซีนได้จำนวนมาก รองจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 246,600 โดส ซึ่งมีการโจมตีว่าอุดรธานี ได้เยอะเกินไป มากกว่าในจังหวัดส่วนกลางที่มีการแพร่ระบาด จึงได้มีการนำไปจัดสรรกันใหม่ ดูตามจำนวนผู้ป่วย ตามจำนวนประชากร  จึงยังไม่แจ้งตัวเลขมาว่าอุดรธานี จะได้วัคซีน จำนวนเท่าไหร่ อยู่ในระหว่างการรอ ถึงจะมีการวางแผน

สำหรับการฉีดจะไม่เน้นการจองแบบเดิม เพราะจองลงไปเยอะๆ แต่ไม่มีวัคซีนให้ จึงต้องเอาใหม่ คือได้วัคซีนเท่าไหร่จะจัดคิวมาฉีด กลุ่มแรกที่ฉีดคือ กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนหมอพร้อมไปก่อนหน้านี้ จะนำมาฉีดก่อน อันดับที่ 2 จะเป็นกลุ่มครู ที่จะเปิดเทอมในวันที่ 14 มิถุนายน นี้ จะฉีดให้ได้ตามแผน 15,000 คน แต่ไม่รู้ว่าวัคซีนจะได้มามากน้อยแค่ไหน อยู่ในระหว่างติดตาม ส่วนกลุ่มอื่นๆ ก็จะฉีดต่อไป ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก เนื่องจากไม่มีวัคซีน ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน

การติดเชื้อจากการเดินทางเข้ามาใน จ.อุดรธานี มีทั้งครูและนักเรียน กลุ่มเป้าหมายที่จะต้องตรวจเชิงรุก Swab 31 พ.ค. – 6มิ.ย.คือกลุ่มครู ตรวจกลุ่มเสี่ยงคือครูทุกอำเภอ ใน จ.อุดรธานี ด้วยการสุ่มตรวจเป็นบางโรงเรียน และบางพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงและมีประวัติครู นักเรียน โรงเรียนนั้นติดเชื้อก่อนหน้านี้หรือในหมู่บ้าน หรือชุมชนนั้น มีการติดเชื้อก็จะมีการสุ่มตรวจ และตรวจอาชีพที่เสี่ยง เช่นอาชีพพบปะผู้คน แกร๊ป เคอรี่ส่งสินค้า  หน่วยราชการที่ประชาชนไปติดต่อจำนวนมาก เช่นที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ สำนักงานที่ดิน ไปรษณีย์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และค้นหาผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ

ส่วนวัคซีนทางเลือก มีท้องถิ่นจะช่วยเหลือสนับสนุนวัคซีน ทางจังหวัด มี อบจ.อุดรธานี และนายกเทศบาลนครอุดรธานี ที่เสนอซื้อวัคซีนมาฉีดให้ประชากรภายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี  สภาหอการค้า จ.อุดรธานี ซื้อมาฉีดให้ภาคธุรกิจ โดยซื้อวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” จากสถาบันจุฬาภรณ์ “

นายพรหมินทร์  เค้าโคตร  นักวิชาการสาธารณสุข จังหวัดอุดรธานี   กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ  เปิดเผย  ในวันนี้เป็นวันที่2 ในเชิงรุก ตรวจแบบ Swab  ทางเดินหายใจ ในการหาเชื้อโควิด ของกลุ่มข้าราชการครูโรงเรียนเทศบาล11 ,กลุ่มสำนักงานจัดหางานและกลุ่มตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ตรวจข้าราชการตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี ไป จำนวน 263 นาย ไม่มีใครติดเชื้อ โดยในวันที่ 4 มิถุนายน จะถึงนี้ จะเป็นกลุ่มครูในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี จำนวนหลายโรงเรียน จะมีครู700 คน ที่จะมาตรวจ ซึ่งกำลังของเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์อื่นมือต่างๆ มีความพร้อม โดยศักยภาพ สามารถตรวจได้วันละ700 คน เช่นเดียวกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดเบื้องลึก "รมว.ปุ๋ง" ถูกโยกนั่งวธ. รับงานใหญ่ ลุย Soft Power
สุดแปลก ควายเปลี่ยนสีได้ จากสีเผือกกลายเป็นสีดำทั้งตัว ปศุสัตว์ยันไม่ได้ป่วยหรือเป็นโรคผิวหนัง
"เอกสิทธิ์" ผงาด นั่งหน.พรรคพลังปวงชนไทย คนใหม่ พร้อมชูนโยบายทันสมัย ตอบโจทย์คนไทย
"นายกฯ" ลุยตรวจโรงงานสารเคมีระยอง จี้ถามอธิบดีกรมโรงงานลงพื้นที่ช้า สั่ง 5 ข้อแก้-เยียวยา ปชช.
"ผู้บริหารสาว" บริษัทชั้นนำของโลก เมาแล้วขับ เตรียมส่งทนาย ชี้แจงปมทำร้ายตร.-รับทราบข้อกล่าวหา
อก.เตรียมส่ง "กากแคดเมียม" กลับบ่อฝังกลบ เที่ยวแรก 270 ตัน 29 เม.ย.นี้
สุดระทึก เกิดเหตุไฟไหม้ "โรงงานกระดาษ" จ.นครปฐม เสียหายไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
ชะตากรรม 3 นิ้ว "อานนท์-บอส" ลุ้นฟังคำพิพากษา เผยรอสืบพยานอีก 3 ราย
ระทึก ไฟไหม้รถตู้ที่จอดหน้าบ้าน ลามเผาบ้านวอดยกหลัง จว.ฉะเชิงเทรา
“สมชัย” กางเอกสาร ชี้ 4 จุดอ่อน ระเบียบการแนะนำตัวผู้สมัคร สว.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น