วันที่ 13 พย.64 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ลัทธศักดิ์ ภูถี่ถ้วน รอง ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ขุนเขาโพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.สหธัญ กำบิลดีลิราช รอง ผกก.1 บก.ทล.ร่วมกันจับกุม นายสุริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลาง เงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ จำนวน 595,000 บาท จับกุม บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ถ.สายเอเชีย ต.ท่าโฉนด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 เวลาประมาณ 14.30 น.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 เวลาประมาณ 14.30 น. มีคนร้ายสวมหมวกแก๊ปสีดำและสวมแมสปิดบังใบหน้า ได้ทำทีเข้าไปใช้บริการธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยได้กดคิวให้บริการตามปกติ เมื่อพบพนักงานธนาคาร คนร้ายได้ยื่นสมุดบัญชีเงินฝากพร้อมแนบกระดาษเขียนข้อความข่มขู่ว่า “ห้ามคุยกับใคร ในกระเป๋ามีปืนทำตัวปกติ เอาเงินมา 4 ล้านบาท ถ้าพูดคุยกับใครมีคนตาย ซึ่งคุณเป็นคนแรก” พนักงานธนาคารเกิดความกลัวจึงได้นำเงินให้คนร้ายไปจำนวน 600,000 บาท คนร้ายได้เงินแล้วจึงรีบหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ไป
จากการสืบสวน ทราบว่าคนร้ายคือ นายสุริยา อายุ 32 ปี ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนพบตัว ผู้ต้องหาได้หลบหนีขึ้นรถตู้โดยสารไปกรุงเทพมหานคร จากนั้นขึ้นรถบัสโดยสารที่ขนส่งหมอชิต มุ่งหน้าไปจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับตำรวจทางหลวงให้ติดตามตลอดเส้นทางสายเอเชีย จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาได้ขึ้นรถสาย กรุงเทพ-เชียงใหม่ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบผู้ต้องหาอยู่ในรถคันดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบเงินสด จำนวน 595,000 บาท จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส. ภ.2 ได้นำตัวผู้ต้องหาไปขยายผลการจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พานทอง จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และให้การว่ามีหนี้สินกว่า 3 ล้านบาท และต้องการนำเงินมาใช้หนี้ จึงวางแผนก่อเหตุมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 64 พร้อมรับว่า ได้ไปดูธนาคารมาแล้ว 4 แห่ง ส่วนสาเหตุที่เขียนข้อความข่มขู่พนักงานธนาคารใส่กระดาษเนื่องจากกลัวคนแตกตื่น
