“ผบ.ทร.” ลั่นกร้าวปี 69 ปีแห่งความพร้อมรบ ปรับภารกิจ “เรือจักรีนฤเบศร” เป็นฐานทัพโดรน จับตาทหารเขมรเติมกำลัง ขุดคูเลตเพิ่ม แนวเขตบ้าน 3 หลัง ชายแดนตราด

“ผบ.ทร.” ย้ำปี 69 เป็นปีแห่งความพร้อมรบ มอบ ผบ.กองเรือยุทธการ ศึกษาการนำเรือจักรีนฤเบศร มาใช้เป็นฐาน UXV ชี้แม้เทคโนโลยีสำคัญ แต่เรือรบยังมีความจำเป็น ผบ.ทร. ยืนยัน ทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมดูแลอธิปไตยชาติ ปฎิบัติทันทีเมื่อเกิดเหตุ ยันหมวดเรือลาดตระเวนป้องกันชายแดน ตามเส้นที่ไทยประกาศไว้เมื่อปี 2516 ไม่มีการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม ลั่น ‘ตึกกาสิโนกัมพูชา’ ล้ำแดน บ.ท่าเส้น จ.ตราด ต้องรื้อเท่านั้น ไทยพร้อมรื้อให้ แต่กัมพูชาต้องจ่ายเงินคืน ชี้ ยังอยู่ระหว่างพูดคุยในระดับสูง

“ผบ.ทร.” ลั่นกร้าวปี 69 ปีแห่งความพร้อมรบ ปรับภารกิจ “เรือจักรีนฤเบศร” เป็นฐานทัพโดรน จับตาทหารเขมรเติมกำลัง ขุดคูเลตเพิ่ม แนวเขตบ้าน 3 หลัง ชายแดนตราด – Top News รายงาน

 

ผบ.ทร.

 

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จพิธี ทำบุญวันสถาปนากองทัพเรือ ครบรอบ119 ปี ว่า กองทัพเรือจากอดีตถึงปัจจุบัน 119 ปี มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แม้กระทั่งการจัดองค์กรเพื่อสร้างความพร้อม ก็เจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ ตนพร้อมย้ำคำเดิมว่าปี 2569 นี้ ตั้งให้เป็นปีแห่งความพร้อมรบของกองทัพเรือ แต่การจะพร้อมรบได้ มี 4 องค์ประกอบคือ 1.องค์บุคคล 2.องค์วัตถุ 3.องค์ทางยุทธวิธี และ4.การบริหารจัดการ

โดย องค์บุคคล เราพยายามเสริมสร้างให้ทำการฝึก เรียนรู้ เพื่อให้สามารถต่อสู้กับภัยคุกคามได้ / องค์วัตถุ ตนให้นโยบายในเรื่องการพัฒนา เพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยี เช่น มอบนโยบายชัดเจนว่าให้ศึกษา หรือตั้งคณะทำงาน โดยมอบให้ ผบ.กองเรือยุทธการ ศึกษาการนำเรือจักรีนฤเบศร มาใช้เป็นฐาน UXV คือ รวมทั้ง UAV USV และ UUV เข้าไว้ด้วย โดยให้ไปศึกษาว่าเรือจักรีนฤเบศร จะต้องปรับปรุงแผนงานอย่างไรบ้าง ต้องจัดหาอะไรบ้าง ซึ่งถ้าเราศึกษาแล้วมีต้องมี UAV 24 เครื่อง เราก็จะเริ่มต้นทำแผนงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบ ซึ่งเราทราบดีว่ายุทโธปกรณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป เราสามารถใช้ยุทโธปกรณ์พวกนี้มาทำการรบโดยใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่าได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนเรือรบก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะเรือรบเป็นแพลตฟอร์ม เป็นฐานในการดำเนินการเข้าสู่พื้นที่ โดยหลักนิยมของกองทัพเรือมีข้อดีอยู่อย่างคือ เราสามารถเข้าไปในพื้นที่ และมี Point ที่สามารถรถกเข้าพื้นที่ข้าศึกได้ทันที เพราะเราสามารถเฝ้าคอยในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ปฏิบัติการได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นเรือผิวน้ำ หรือดำน้ำ ก็ยังเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีความสำคัญ แต่ก็จะเสริมขีดความสามารถของเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับเข้าไป รวมถึงยานไร้คนขับเข้าไปในเรือด้วย รวมทั้งหน่วยกำลังรบทางบกในระดับหมวด ซึ่งกำลังวางโครงสร้างอยู่โดยจะมีทั้ง UAV โดรน และแอนตี้โดรน เพื่อสร้างความปลอดภัยในการลาดตระเวนของกำลังรบทางบก

เมื่อถามว่า กองกำลังจันทบุรีและตราด มีการเตรียมความพร้อมมากแค่ไหน ในการ รับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผบ.ทร. กล่าวว่า ตั้งแต่ปฏิบัติการตราดพิฆาตไพรีครั้งที่แล้ว เรายังมีกำลังอยู่เต็มพื้นที่ บางส่วนที่ถอนกำลังไปแล้วก็กลับเข้าพื้นที่แล้ว ในเรื่องของการสนับสนุนโดรน ไม่ว่าจะเป็นโดรนของชิเบล ที่เราสนับสนุนการลาดตระเวน ก็เข้าพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของปืนใหญ่ที่ทำให้เต็มอัตรา จากเดิมเราไม่มีปัญหาข้อพิพาท เราจัดแบบหย่อนกำลัง แต่พอมีปัญหาข้อพิพาท ก็จัดแบบเต็มกำลังคือจังหวัดละ 1 กองร้อยปืนใหญ่ มีทั้งกองร้อยปืน 155 มม. และกองร้อยปืน 105 มม. ซึ่งยืนยันไม่ได้ทำเพื่อรุกรานใคร แต่ทำเพื่อป้องกันอธิปไตยไทยให้มีความพร้อม และประสานแผนกับกำลังกองทัพภาคที่ 1 และ 2 อย่างใกล้ชิด และประสานการปฎิบัติ เวลาเราจะเดินต้องเดินไปด้วยกันทั้ง 3 กองทัพภาค

 

พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงการพูดคุยในที่ประชุมผู้บัญชาการทางทหารวานนี้ อย่างไร ในการดูแลอธิปไตยของชาติ ว่า เราเตรียมความพร้อม และใช้มติ สมช. ข้อสุดท้าย ว่าทุกเหล่าทัพจะต้องเตรียมความพร้อมที่จะปฏิบัติได้ทันทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ หรือเมื่อสั่ง

เมื่อถามว่า หมวดเรือป้องกันชายแดนมีการจัดวงรอบ หรือมีการเสริมกำลังอย่างไรบ้าง ผบ.ทร. กล่าวว่า บทเรือป้องกันชายแดน จัดวงรอบการปฏิบัติทุก 6 เดือน แต่ในการปฏิบัติในวงรอบ 6 เดือน การปฏิบัติจริงจะมีวงรอบภายในอีก และเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ กำลังทั้งหมดของหมวดเรือลาดตระเวนป้องกันชายแดน ก็อยู่ในพื้นที่หมด ซึ่งเราปฏิบัติการตามเส้นที่เราประกาศไว้เมื่อปี 2516 เราใช้เส้นนั้น ในการลาดตระเวนในการคุ้มครองรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลมาตลอด และไม่มีการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม

พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องทอง ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงกรณีบ้าน 3 หลัง บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด จัดการเรียบร้อยหรือไม่ ว่า การปฏิบัติการทางทหารที่ผ่านมา ต้องเข้าใจว่ารับคำสั่งเท่าไหร่ ก็จะทำเท่านั้น ครั้งที่แล้ว เรารับคำสั่งไป 3 หลัง ก็ทำไป 3 หลัง แต่ครั้งนี้ ถ้ามีการปฏิบัติก็จะดำเนินการเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเพียงแนวคิด ไม่ใช่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะไปดำเนินการ ถ้ามีความจำเป็นเราก็จะสามารถดำเนินดารตามที่รัฐบาลกำหนด

ส่วนอดีตอาคารกาสิโนที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างล้ำมาเขตแดนไทย บริเวณรอยต่อเมืองทมอดา จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา กับ บ.ท่าเส้น อ.เมือง จ.ตราด หลังมีรายงานว่าฝ่ายไทยจะให้กัมพูชารื้อทั้งหมด ผบ.ทร. กล่าวว่า ตามหลักการใครสร้างใครรื้อ เมื่อเขาสร้าง เขาก็ต้องรื้อ แต่ถ้าเขาไม่รื้อ และบอกให้เรารื้อ ซึ่งตามหลักการเรารื้อ เราก็ต้องเรียกร้องค่าใช้จ่ายจากเขา

เมื่อถามว่าทางฝ่ายกัมพูชาส่งสัญญาณว่าจะรื้อเองหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ในระดับสูงกำลังคุยกันอยู่ ของ กองทัพเรือขอกำหนดขอบเขตการกฏิบัติของกองทัพอยู่ในปฏิบัติการยุทธวิธีในการรักษาพื้นที่รักษาแนว

ขณะที่ พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีพื้นที่บ้าน 3 หลัง ทางกองทัพเรือยังคงห่วงใยและกังวล ภายหลังรื้อบ้าน 3 หลัง ได้ตรวจพบการวางกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่เข้ามา มีการขุดคูเลตเพิ่ม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สูง แต่ฝ่ายไทยอยู่ด้านล่าง จึงเข้าไปลำบาก โดยสิ่งที่ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ทำอยู่ จากความร่วมมือประชาชน จ.ตราด ได้ทำถนนเข้าไปประชิด เหตุผลการทำถนนเพื่อปฏิบัติการทางยุทธวิธี และจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน ส่วนการผลักดันฝ่ายตรงข้ามนั้น เรายังคงใช้การเจรจา แต่การเจรจาไม่ได้พูดคุยเพียงอย่างเดียว มีวิธีจากเบาไปหนักขึ้น เรายื่อข้อสเนอให้เขาไปหลายเรื่อง ถ้าเขาสะดวกจะย้ายออก เรายินดีให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ขยับออกไป ตอนนี้เราพยายามทำให้เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายไทยไม่ต้องการสร้างแรงกระเพื่อมในพื้นที่ ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่บานปลายไปมากกว่านั้น

เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายไทยรื้อบ้าน 3 หลังไปแล้ว และฝ่ายกัมพูชากลับเข้ามาใช่หรื่อไม่ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กลับเข้ามา ส่วน 3 หลังที่เหลือ เป็นเรือนบริวาร ใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ถ้าดูจากกูเกิลแมพ เราจะเห็นว่าเป็นเพิง แต่บ้านหลังใหญ่ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างอาคาร บ้านคอนกรีต 3 หลัง รื้อไปหมดแล้ว

เมื่อถามว่าที่ฝ่ายไทยเข้าไปไม่ได้เกิดจากที่ฝ่ายกัมพูชาวางทุ่นระเบิดด้วยหรือไม่ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า มาจาก 2 เหตุผล คือ พื้นที่เขาถึงลำบาก ก่อนที่จะมีการทำถนนเข้าไปในขณะนี้ เป็นพื้นที่ป่าดิบ ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นชัดว่าฝั่งกัมพูชาเป็นพื้นที่ราบสูง เขาถึงได้ง่าย แต่ฝั่งไทยเข้าไปจะเป็นป่าทึบทั้งแนว ซึ่งเราเจาะถนนเข้าไปแล้ว แต่สิ่งที่เราเจอในพื้นที่เต็มไปด้วยวัตถุระเบิดและทุ่นระเบิด เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งเรากังวลและไม่อยากให้มีรายถัดไป จะทำให้ความตึงเครียดในพื้นที่มากขึ้น

หาเทียบกับภูมิประเทศจะคล้ายกองทัพภาคที่ 2 ในบางพื้นที่ที่เป็นเนิน ใครอยู่ได้สูงกว่า ก็จะเห็นด้านล่าง ซึ่งในพื้นที่ของ ทร. เราอยู่ด้านล่าง ก็ค่อนข้างเสียเปรียบ และการเข้าถึงพื้นที่ ซึ่งฝ่ายเขาเป็นที่ราบ การเพิ่มเติมกำลัง จะค่อนข้างง่าย แต่ฝ่ายเราจะยากกว่า โดยเฉพาะอาวุธหนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ บำเพ็ญกุศลสวดพระพุทธมนต์ อุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
คนแก่ ผู้ป่วยติดเตียงชายแดน อพยพไปอยู่วัด 2 แห่ง ร่วม 50 คนแล้ว ฝากรัฐบาลจัดการเขมรให้จบ
ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ ลงพื้นที่มอบสิ่งของดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าตะโก
ปั้มน้ำมันเชลล์จุดพักรถ ตา-ยาย อ.แกลง จ.ระยอง คว้ารางวัล สุดยอด ส้วมแห่งปี 2568
กาญจนบุรี/// เปิดเวทีใหญ่ผู้นำทุกภาคส่วนระดมสมองปฏิรูปเมืองสู่ Smart City รองรับท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม เกษตรสมัยใหม่ ย้ำเป็นหมุดหมายสำคัญขับเคลื่อนจังหวัดในอนาคต
"นายกฯ อนุทิน" ลั่นเดือดรอ 31 ม.ค.ไม่ได้ ก็พร้อมยุบสภาฯ 12 ธ.ค. แต่อะไรรัฐบาลทำไม่เสร็จ ต้องไปโทษคนนั้น มาโทษผมไม่ได้

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​