“พี่แหม่ม” เปิดใจทั้งน้ำตา ความทรงจำวัยเด็กถวายมาลัยกร แด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภาพแห่งความปลื้มปิติที่ไม่มีวันลืม พระองค์ตรัสต่อหน้าว่า “ขอบใจนะจ๊ะ” ที่เปล่งออกมาด้วยพระเมตตา

วันที่ 30 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ประธานกองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ เปิดเผยเรื่องราวสุดประทับใจของ “พี่แหม่ม” ซึ่งย้อนเล่าความทรงจำเมื่อครั้งยังเป็นเด็กหญิงวัยเพียงสิบขวบ ที่เคยมีโอกาสถวายพานมาลัยกร แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งพระองค์เสด็จฯ พร้อมด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์, และ พระบรมโอรสาธิราชฯ มกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ 10) เสด็จมาพร้อมกันทั้งครอบครัว ณ พื้นที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

ข่าวที่น่าสนใจ

มทบ.32 ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม อุทิศถวายพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง”

วธ.รวมใจทุกภาคส่วน เตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร 7 วัน ถวายพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง”

“ตอนนั้นปลื้มปิติสุดชีวิตเลยค่ะ พ่อกับแม่ถวายงานอยู่เป็นประจำ ทั้งเป็นวิทยากรลูกเสือและวิทยากรครอบครัว วันนั้นท่านเสด็จมาพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน แม่ให้เราถวายพานมาลัยก่อน เราตื่นเต้นมากเพราะพานมาลัยใหญ่มากสำหรับเด็กตัวเล็ก ๆ” พี่แหม่มเล่าด้วยแววตาเปี่ยมสุข

เธอยังจำได้แม่นถึงคำตรัสของพระองค์ท่าน “ขอบใจนะจ๊ะ” ที่เปล่งออกมาด้วยพระเมตตา “แม่ได้ยินชัดเลยค่ะ แล้วบอกเราทีหลัง ตอนนั้นทั้งดีใจ ทั้งตื้นตันจนพูดไม่ออก ทุกวันนี้ยังจำเสียงนั้นได้อยู่เลย”

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ครอบครัวของพี่แหม่มยังคงถวายงานในทุกโอกาส ด้วยความจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย “พ่อแม่สอนเสมอให้เราทำความดี ตอบแทนคุณแผ่นดิน และทุกครั้งที่พระราชวงศ์เสด็จฯ มาที่โคราช เราจะไปเฝ้ารับเสด็จด้วยหัวใจที่ภักดี” พี่แหม่มกล่าวทั้งน้ำตาทิ้งท้ายว่า “น้ำตาในวันนี้คือความปลื้มปิติและความอาลัยจากหัวใจของพวกเราทั้งครอบครัว เราภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้ถวายงานแด่พระองค์ท่าน และจะขอทำความดีถวายพระองค์ตลอดไป”