“สหกรณ์โคราช” ขุมพลังเศรษฐกิจฐานราก 269 แห่งหมุนเงินปีละกว่า 5.3 หมื่นล้าน – ดันเกษตรกรเข้มแข็ง พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นยั่งยืน

“สหกรณ์โคราช” ขุมพลังเศรษฐกิจฐานราก 269 แห่งหมุนเงินปีละกว่า 5.3 หมื่นล้าน – ดันเกษตรกรเข้มแข็ง พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นยั่งยืน

 

วันที่ 29 ต.ค. 2568 นายอาทร ชัยยันต์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงบทบาทของสหกรณ์ต่อเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมาว่า ปัจจุบันจังหวัดมีสหกรณ์และกลุ่มสหกรณ์รวมทั้งสิ้น 269 แห่ง ครอบคลุมทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร มีสมาชิกกว่า 450,000 คน หรือกว่า 450,000 ครอบครัว ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่และมีระบบเศรษฐกิจที่หลากหลาย

นายอาทรระบุว่า ปัจจุบันสหกรณ์ในจังหวัดมีทุนดำเนินงานรวมกว่า 84,000 ล้านบาท และมีมูลค่าธุรกิจหมุนเวียนต่อปีสูงถึง 53,000 ล้านบาท ครอบคลุมกิจกรรมหลักทั้งด้านการให้สินเชื่อ การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย การรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าวเปลือก ข้าวโพด และพืชผลอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด พร้อมกันนี้ยังมีเงินฝากจากสมาชิกมากกว่า 12,000 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสมาชิกต่อระบบสหกรณ์ในพื้นที่

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สหกรณ์ยังมีปัญหาหนี้ค้างชำระ (NPL) ประมาณ 3,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นของสหกรณ์ภาคเกษตรและสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดฯ ได้เร่งดำเนินมาตรการฟื้นฟู ปรับโครงสร้างหนี้ และสนับสนุนการบริหารจัดการให้สมาชิกสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง

แหล่งเงินทุนหลักของสหกรณ์มาจาก 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ เงินทุนจากสมาชิก (หุ้นและเงินฝาก), เงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และเงินทุนจากแหล่งภายนอก ซึ่งช่วยให้ระบบสหกรณ์มีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลกำไรของสหกรณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จะมีการจ่ายปันผลและเฉลี่ยคืนให้สมาชิกทุกสิ้นปี มูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาท โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 4.5 – 5.0 สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป ส่งผลให้สมาชิกถือหุ้นในระบบสหกรณ์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

 

 

 

 

ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกปัจจุบัน สหกรณ์การเกษตรในหลายพื้นที่ เช่น พิมาย บัวใหญ่ บัวลาย และวังไม้แดง ได้เปิดรับซื้อข้าวเปลือกและผลผลิตจากสมาชิก พร้อมใช้ “กลยุทธ์ราคานำตลาด” เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ราคาข้าวในพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยบางแห่งยังเข้าร่วมจำหน่ายข้าวสารคุณภาพในงาน “ตลาดเทกระจาดของดีโคราช” ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ สหกรณ์หลายแห่งยังได้ขยายกิจกรรมสู่การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และสินค้าท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้เสริมให้สมาชิกในชนบท

นายอาทรกล่าวทิ้งท้ายว่า “หัวใจสำคัญของระบบสหกรณ์คือความเข้มแข็งจากภายใน หากสหกรณ์เข้มแข็ง ก็จะสามารถดูแลสมาชิกได้อย่างครอบคลุม ทั้งในยามปกติและยามวิกฤติ เช่น น้ำท่วมหรือภัยแล้ง ซึ่งหลายสหกรณ์ได้แสดงบทบาทช่วยเหลือสมาชิกอย่างทันท่วงที ถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจระดับฐานรากอย่างแท้จริง”

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว นายประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าว topnews ทั่วไทย จ.นครราชสีมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“Agro FEX 2025” เปิดยิ่งใหญ่กลางเมืองโคราช “FOODER จากฟาร์มถึงช้อน” ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไทยสู่สากล
ผู้บริหาร "หงส์ไทย" เดินหน้าพัฒนาคุณภาพ "ยาดมสมุนไพร" ส่งผลิตภัณฑ์ฉายรังสี ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ เพิ่มปลอดภัยผู้บริโภค
ฮอยอันเมืองมรดกโลกเวียดนามจมบาดาล
จีนจี้สหรัฐยึดมั่นข้อตกลงห้ามทดลองนิวเคลียร์
"ทิพานัน" หารือสภาฯ ร่วมหาแนวทางป้อง "สิทธิเด็ก" ในโลกออนไลน์ ย้ำห่วงละเมิด ควรผลักดันเสริมความรู้ คู่บังคับใช้กม.จริงจัง
มทบ.32​ ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ค่ายสุรศักดิ์มนตรี น้อมนำบำรุงพระพุทธศาสนา​

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​