วันที่ 12 ตุลาคม 2568 กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม กว่า 50 คน ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี รวมตัวกันที่ศูนย์รับน้ำนมดิบ บจก.มวกเหล็ก แดรี่ เซ็นเตอร์ เนื่องจากว่าน้ำนมดิบ ที่ผลิตจากโคนมไม่สามารถขายออกได้ เนื่องจากศูนย์รับน้ำนมดิบไม่มีที่ส่งออก และเมื่อไม่มีที่ส่งทางสมาชิกของกลุ่มเกษตรกรก็ไม่ได้ทำ MOU กับศูนย์อื่นๆไว้ แต่เมื่อผลิตน้ำนมออกมาแล้วไม่สามารถขายออกได้ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่มีที่จะส่งนม เนื่องจากว่าศูนย์หยุดรับนม และไม่มีที่ส่งน้ำนมเหมือนกัน เนื่องจากศูนย์จะกำหนดให้ส่งวันละ 50 กก.หรือ 100 กก.น้ำนมที่เหลือก็จะต้องเททิ้ง ทำให้กลุ่มเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าต้นทุนในการผลิตน้ำนมดิบมีค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารวัว ค่าฟาง ค่าคนงาน ค่าหมอ ค่าผสมพันธ์วัว ฯลฯซึ่งใช้ต้นทุนที่สูง วันนี้จึงได้รวมตัวกันมาที่ศูนย์ฯ เพื่อรับฟังคำชี้แจงจากศูนย์ฯว่าสามารถรับซื้อน้ำนมดิบได้อีกหรือไม่ ซึ่งทางศูนย์ได้ชี้แจงว่าตอนี้ต้องรอแผนจากทางหน่วยงานรัฐ และกรมส่งเสริมเกษตรและสหกรณ์ส่งแผนในการรับซื้อมาก่อน ทำให้กลุ่มเกษตรกรที่นำน้ำนมดิบมาขายให้ศูนย์ได้รวมตัวกันเทน้ำนมดิบทิ้งภายในศูนย์ (เป็นเชิงสัญญาลักษณ์)
ทางด้านนายเรวัติ มาถาวร กรรมการผู้จัดการศูนย์รับน้ำนมดิบ บจก.มวกเหล็ก แดรี่ เซ็นเตอร์ เผยว่าตอนนี้ทางศูนย์ฯต้องการให้หน่วยงานรัฐ โยเฉพาะกรมส่งเสริมเกษตรและสหกรณ์ ช่วยดูเรื่อง MOU ที่เราได้สามารถจัดส่งได้ ถ้ายังหา MOUใหม่ให้ทางศูนย์ไม่ได้ ขอใช้เป็น MOU เดิมได้ไหม ให้กรมส่งเสริมฯจัดให้เป็น MOU เดิมไปสักประมาณ 1 เดือน เพื่อที่ทางศูนย์ฯจะได้ระบายนม เนื่องจากว่าต้องรับนมจากสมาชิกทุกวัน เนื่องจากว่าตอนนี้ทางศูนย์ฯรับนมจากสมาชิกมาก็ไม่มีที่ขายออก เนื่องจากว่าตอนนี้ทางศูนย์รับนมมา 13.7 ตัน แต่ทางเรามี MOU เพียงแค่ 1 ตัน และยังมีพันธะสัญญานมโรงเรียนอยู่อีกประมาณ 4 ตันกว่า แต่พันธะสัญญานมโรงเรียนยังไม่ส่งแผนนมเข้ามา ซึ่งโดยปกติแผนนมต้องส่งมาก่อนสิ้นเดือน เพื่อทางเราจะได้จัดลำดับ หรือจัดปริมาณนมส่งแต่ละที่ได้โดยไม่ติดขัด
จึงอยากร้องเรียนไปยังกรมส่งเสริมฯให้ช่วยจัดเรื่อ MOU ให้ด้วย เพื่อทางศูนย์จะได้รับนมจากสมาชิกได้ต่อเนื่อง ถ้าเป็นแบบนี้ทางศูนย์จึงต้องขอหยุดรับซื้อน้ำนมชั่วคราว ซึ่งทำให้ผลกระทบกับทางศูนย์ และทางเกษตรกรด้วย เพราะนมก็จะไม่มีที่ไปโดยเฉพาะช่วงนี้ทุกที่ก็จะไม่รับน้ำนมเพิ่ม ส่วนเรื่องราคา ตอนนี้ทางเราพยายามที่จะขายถูกซึ่งขายเพียง 14 บาทต่อกิโลกรัม ก็ยังไม่มีใครรับซื้อและไม่มีที่ไป ตอนนี้นมที่รับซื้อไว้ก็ต้องทิ้งไปเป็นบางส่วนประมาณ 2 คันรถหรือประมาณ 30 ตัน และยังมีที่ในสต๊อกอีกประมาณ 40 ตันก็ยังไม่มีที่ไป ซึ่งก็ยังไม่เห็นแนวทางที่กรมส่งเสริมฯจะสรุปเรื่อง MOU เพราะที่บอกว่าจะให้ถึงในวันที่ 15 ตนเองยังไม่เห็นแนวทางว่าวันที่ 15 จะได้เซ็น MOU กับใคร เพราะจากวันนี้ถึงวันที่ 15 นมก็คงจะล้นก็คงจะต้องเททิ้งอีก จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐช่วยดูตรงนี้ให้นิดหนึ่งว่าจะแก้ไขได้ประมาณไหนเพื่อที่จะได้ไม่ให้มีผลกระทบกับเกษตรกร เนื่องจากว่าเกษตรกรต้องส่งนมทุกวัน ซึ่งเกษตรกรที่ส่งนมทุกวันก็ไม่ใช่เกษตรกรรายใหญ่ เขาก็ต้องการรายได้จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ซึ่งในศูนย์จะมีเกษตรกรร่วมอยู่ 50 กว่าราย