“สุดาวรรณ” ลงพื้นที่จ.สุรินทร์ พร้อม “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี และรมว.วธ. เยี่ยมผู้บาดเจ็บ ให้กำลังใจได้รับผลกระทบเหตุปะทะไทย-กัมพูชา พร้อมสั่ง อว.ส่วนหน้าโคราชเปิดศูนย์พักพิงเพิ่ม รองรับได้อีก 4,600 คน

“สุดาวรรณ” ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ พร้อม “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี และ รมว.วธ. เยี่ยมผู้บาดเจ็บ – ให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมสั่ง อว.ส่วนหน้าโคราชเปิดศูนย์พักพิงเพิ่ม รองรับได้อีก 4,600 คน

“สุดาวรรณ” ลงพื้นที่จ.สุรินทร์ พร้อม “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี และรมว.วธ. เยี่ยมผู้บาดเจ็บ ให้กำลังใจได้รับผลกระทบเหตุปะทะไทย-กัมพูชา พร้อมสั่ง อว.ส่วนหน้าโคราชเปิดศูนย์พักพิงเพิ่ม รองรับได้อีก 4,600 คน – Top News รายงาน

 

สุดาวรรณ

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยทางคณะได้เดินทางไปยัง ศูนย์อพยพชั่วคราว ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ของกระทรวง อว. ที่ให้การสนับสนุนพื้นที่และทรัพยากรเพื่อรองรับและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 5,500 คน โดยได้เยี่ยมให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ และยังได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สู้รบ และรับฟังข้อมูลสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

 

 

หลังการเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า กระทรวง อว. ได้สั่งการให้ อว.ส่วนหน้า ซึ่งคือสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่เป็นกลไกหลักในการช่วยเหลือประชาชนยามวิกฤติ โดยจัดตั้งเป็น “ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยการปะทะชายแดน” ซึ่งขณะนี้มี อว.ส่วนหน้าในจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และสระแก้ว ที่มีการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นทั้งพื้นที่พักพิงหรือศูนย์อพยพชั่วคราวให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ มีการสนับสนุนบุคลากร และการใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยในการบรรเทาสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง ทั้งอาคารเรียน อาคารเอนกประสงค์ หอประชุม โรงยิม ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องพักชั่วคราว

 

“สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการความร่วมมือกันอย่างเร่งด่วน กระทรวง อว. ได้ขับเคลื่อนให้สถาบันอุดมศึกษาเป็นกลไกที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรทางวิชาการและบุคลากรเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติ ซึ่งทุกแห่งต่างได้แสดงบทบาทนี้อย่างน่าชื่นชม และการลงพื้นที่ครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานทุกระดับ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงที ครอบคลุม มีประสิทธิภาพ และต่อเนื่อง” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว

และในวันเดียวกันนี้ รมว.อว. ยังได้ขอความร่วมมืออย่างเร่งด่วนไปยัง อว.ส่วนหน้าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยการปะทะชายแดน” เพิ่มเติม โดยให้เร่งดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ ความปลอดภัย การจัดการด้านสุขาภิบาล อาหาร การดูแลสุขภาพเบื้องต้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน และให้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีมาตรฐาน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าศูนย์ปฏิบัติการฯ ในจังหวัดนครราชสีมาจะสามารถรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวมแล้วกว่า 4,600 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผวจ.นครฯ เปิดร้านกาชาดงานบุญสารทเดือนสิบ 2568
“Boat Taxi” ก้าวใหม่ของระบบขนส่งสาธารณะทางน้ำ
ผู้ว่าฯ พิจิตร สั่งด่วนแก้ปัญหาเหตุน้ำท่วมถนน เส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือ
ชัยภูมิ สีสันกีฬาสีโรงเรียนอนุบาล ในตรีมเด็กรักชาติ ที่ อ.จัตุรัส
เริ่มแล้ว! มหกรรมวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ 5 ชาติพันธุ์ "เพชรสมุทรคีรี"
อบจ.พิษณุโลก เปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก สมัยสามัญ สมัยที่ 2

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​