ความตั้งใจของฉัน ฉันทำได้ ได้กลับมาดูแลคนแก่ที่บ้าน ลาออกจากที่ทำงาน เก็บของใช้ คืนหอพัก เตรียมตัวกลับบ้านสัปดาห์นี้แล้ว อยู่ดีๆ รายชื่ออันดับ 1 ของฉันหายไป เกิดอะไรขึ้น โทรไปถามทางต้นสังกัดได้รับแค่คำขอโทษ ไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น แล้วฉันต้องทำยังไงต่อไป ความรู้สึกของพ่อแม่ฉันใครจะเยียวยา เคว้งไปหมดเลยตอนนี้ เสียใจสุดๆ ขอความเป็นธรรมให้ด้วยค่ะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว
หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ส่งผลให้ชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่พากันตำหนิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จ.สระแก้ว โดยชาวเน็ตรายหนึ่ง ระบุว่า เมื่อประกาศผลแล้วแต่กลับเปลี่ยนแปลงรายชื่อคนที่สอบได้อันดับ 1 โดยไม่มีรายชื่อสำรองเลยแม้แต่น้อย จึงอยากให้นำข้อสอบมาตรวจทีละข้อต่อหน้าสื่อมวลชนเพื่อความโปร่งใส ขณะที่ชาวเน็ตอีกรายระบุว่า คนสอบติดอันดับ 1 ลาออกจากงาน แล้วอย่างนี้จะรับผิดชอบชีวิตคนสอบติดและคนในครอบครัวอย่างไร ขณะที่ชาวเน็ตอีกราย แนะนำว่าให้คนสอบติดไปฟ้องศาลปกครอง เพราะอาจช่วยให้กลับเข้ารับราชการได้
หลังกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว อย่างหนัก นายประยงค์ สารภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว (สพม.สระแก้ว) จึงออกหนังสือชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยเนื้อหาใจความระบว่า “เรื่อง ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว
ตามที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ได้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไปในตำแหน่งครูผู้สอน โดยได้ดำเนินการตามกระบวนการสรรหาฯ แต่ภายหลังจากได้มีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาฯ ได้มีข้อทักท้วงเรื่องข้อสอบและคำตอบที่ถูกต้องในแต่ละข้อ ว่า หากไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องจะยกให้เป็นคะแนนสำหรับทุกคนหรือไม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว จึงได้ดำเนินการทบทวนข้อสอบและคำตอบ รวมทั้งตรวจคะแนนประมวลผลใหม่ทั้งหมดทุกคนว่ามีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหรือไม่
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผลคะแนนการประเมินภาค ก. และ ภาค ข. ของผู้เข้ารับการสรรหาฯ คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อมูลเดิม สาเหตุเกิดจากการเฉลยคำตอบซึ่งไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง และเฉลยสลับข้อ ส่งผลให้คะแนนรวมภาค ก. ภาค ข. และภาค ค. ของผู้เข้ารับการสรรหาฯ เกิดความคลาดเคลื่อน จึงทำให้ลำดับที่ของผู้ผ่านการสรรหาฯ มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีทั้งผู้ที่ได้ลำดับที่คงเดิม สูงขึ้น และลดลง และการดำเนินการจัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาฯ ผิดพลาด จึงประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไปในตำแหน่งครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว
จากเหตุดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาดบกพร่องของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ซึ่งเกิดผลกระทบต่อหลายฝ่าย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ยอมรับในความผิดพลาดดังกล่าวนี้ และยินดีร่วมมือในการแก้ไขข้อบกพร่อง อีกทั้งบุคลากรที่ดำเนินการสอบยังขาดประสบการณ์ด้านการดำเนินการสอบ เนื่องจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เป็นเขตพื้นที่การศึกษาตั้งใหม่ ขาดแคลนบุคลากรในการปฏิบัติงาน และบุคลากรส่วนใหญ่เป็นผู้บรรจุใหม่ จึงขาดประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว อีกประการหนึ่งด้วย ในการนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ขออภัยเป็นอย่างสูงต่อผู้รับการสรรหาที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยจะปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความรอบคอบรัดกุมและเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบ เพื่อมีให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก”
ต่อมาเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า รายชื่ออันดับ 1 ของผู้เข้ารับการสรรหาซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว ทำการเปลี่ยนแปลง มีนามสกุลคล้ายคนดังใน จ.สระแก้ว ส่งผลชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเชื่อว่าการเปลี่ยนรายชื่อในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากการซื้อตำแหน่ง หรือมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง
ต่อมา น.ส.ปิยะโสภิชา นาคพงษ์ ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลโดยระบุว่า สิ่งที่โจมตีอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตนั้นไม่เป็นความจริง จึงขมาอธิบายดังนี้ค่ะ ครอบครัวคุณพ่อและคุณแม่มีอาชีพรับราชการ เป็นครอบครัวปกติทั่วไป ปัจจุบันคุณพ่ออาศัยอยู่ที่ จ.สระแก้ว ส่วนเราและคุณแม่อาศัยอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ หรือลูกนักการเมืองนามสกุลดังแต่อย่างไร การศึกษาจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา การที่มีบางคอมเม้นต์บอกว่าจบจาก ม.ราชภัฏ แต่ใส่ในโปรไฟล์ว่าจบจาก ม.เกษตรฯ จึงไม่เป็นความจริงนะคะ เพราะจบมาจากทั้ง 2 สถาบันค่ะ
เราทราบพร้อมกับทุกคนจริงๆ ค่ะ ไม่ได้มีการทราบมาก่อนเลย เนื่องจากเราดูประกาศแรกไปแล้ว บอกทุกคนในครอบครัวว่าเราสอบไม่ได้ จากนั้นเราดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ จนทราบข่าวพร้อมกับกันทุกคน เราก็ยังรู้สึกความขัดเจนเหมือนกันค่ะ เพราะตอนนี้เราโดนแชร์ข้อมูลส่วนตัว facebook ig และช่องทางต่างๆ พร้อมทั้งถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กเส้น หรือใช้เงินในการซื้อถาดแทน
อยากให้ทุกคนเห็นถึงความพยายามของเรานิดนึงค่ะ ว่าเราดิ้นรนที่เรียนจบมาเพราะเป็นครู 5 ปีเรียนต่อบัณฑิต ไปสอบใบประกอบวิชาชีพครู สอบบรรจุจากการครูผู้สอน ครูอาชีวะ ครูอัตราจ้าง ทั้งๆ ที่บางทีเราป่วย บางครั้งเราทำงานหนัก ไม่มีเวลาอ่านหนังสือสอบ แต่เราก็นำจุดบกพร่องมาพัฒนาตนเอง จนมาเป็นเราในวันนี้ค่ะ ไม่ว่าผลการตรวจสอบออกมาจะเป็นยังไง เราก็ยอมรับเช่นกันค่ะ เพราะจะเป็นการทำให้เราหลุดพ้นจากคำครหา และแสดงถึงความโปร่งใสของเราจริงๆ แต่เราขอความคิดเห็นจากทุกท่านบ้างนะคะ ว่าเราก็แค่คนที่พยายามตามความฝันคนหนึ่ง ถ้ารามีเงิน มีเส้นสายจริง เราไม่ไปอยู่ตรงนี้ที่มีโอกาสน้อยหรอกค่ะ ทุกอย่างที่เราทำและผลที่เกิดขึ้น เราก็พยายามไม่แพ้ใครเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ ปิยะโสภิชา นาคพงษ์
