รวบตัว “ป้ามหาภัย” ตระเวนฉกทรัพย์นทท.ในวัด พบประวัติไม่ธรรมดา เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น

รวบตัว "ป้ามหาภัย" ตระเวนฉกทรัพย์นทท.ในวัด พบประวัติไม่ธรรมดา เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น

Top news รายงาน ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ได้จับกุมตัวนางสาวพรทิพย์ หรือทิพย์ คันธรักษ์ อายุ 55 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ฐานความผิดลักทรัพย์ พร้อมของกลางชุดที่ใส่ก่อเหตุและกระเป๋าของผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้บริเวณหน้าสะพานควาย คอนโดมิเนียม 41 ซอยประดิพัทธ์ 23 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม. เมื่อเวลา 08.30 น. ( 31 พ.ค. ) ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ผู้เสียหายซึ่งเป็น ชายชาวเกาหลี ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง หลังเข้าไปเที่ยวชมภายในวัดพระเชตุพนฯ โดยแขวนกระเป๋าสะพายไว้ที่รถเข็นเด็ก จากนั้นได้เดินไปถ่ายรูปที่บริเวณหน้าวิหานาคปรก เมื่อเดินกลับมาที่รถเข็นเด็ก พบว่ากระเป๋าสะพายได้หายไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ได้ทำการสืบสวนและไล่กล้องวงจรปิดซึ่งสามารถจับภาพคนร้ายเป็นหญิงคนหนึ่งได้อย่างชัดเจน จนสามารถระบุตัวตนคนร้ายได้และทำการสืบสวนต่อมาโดยตลอดและขออนุมัติศาลดุสิต ออกหมายจับ กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าพบบุคคลตามภาพของหมายจับรายนี้ปรากฏตัวอยู่บริเวณหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ซอยประดิพัทธ์ 23 จึงนำกำลังเดินทางไปเฝ้าสังเกตุการณ์จนพบบุคคลลักษณะคล้ายบุคคลตามหมายจับตามที่รับแจ้ง ก่อนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบ จนทราบชื่อนางสาวพรทิพย์ หรือทิพย์ คันธรักษ์ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นหาหลักฐานในห้องพักพบของกลาง ชุดที่ใส่ก่อเหตุ วันที่ 25 มี.ค.67 และ วันที่ 24 พ.ค. 67 กระเป๋าสะพายข้างสีเทา ของผู้เสียหาย ผ้าคลุมศรีษะสำหรับมุสลิมมะห์ สีเทา กระเป๋าหนังสะพายข้าง สีน้ำตาล ของผู้เสียหายที่ก่อเหตุวันที่ 29 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนคุมตัวมาสอบสวน

 

 

 

 

 

 

 

จากการสอบถาม นางสาวพรทิพย์ หรือทิพย์ คันธรักษ์ ยอมรับว่าตนเองเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ ปี 2553 และก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยจะเดินไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นวัด สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ และที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชอบมายืนถ่ายรูป ยืนรออาหาร นั่งชมวิว จากนั้นจะอาศัยจังหวะที่นักเที่ยว ไม่ได้สนใจทรัพย์สินของตนเอง และมุ่งไปกับความสวยงาม หรือบรรยากาศของสถานที่ที่ท่องเที่ยว แล้วเดินไปหยิบเอาทรัพย์สินหลบหนีออกมา เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะเอาไปขายก่อนจำนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเก็บสะสมไว้ทุนเปิดร้านขายน้ำชากาแฟ

 

 

 

 

 

ที่ผ่านมาถูกจับกุมดำเนินคดีลักทรัพย์มาแล้ว 11 ครั้ง พื้นที่ สน.พญาไท ปี 53 , 55 พื้นที่ สน.ปทุมวัน ปี 57 2 ครั้ง ปี 58 พื้นที่ สน.บางซื่อ ปี 60 ลักทรัพย์ในสถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน พื้นที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และพื้นที่ สน.ปทุมวัน ปลายปี 60 พื้นที่สน.มีนบุรี ปี 66 พื้นที่สน.บางซื่อ 1 ครั้ง พื้นที่ สน.ปทุมวัน 1 ครั้ง ก่อนจะมาถูกสน.มีนบุรี จับข้อหาครอบครองยาเสพติด และพ้นโทษมาเมื่อเดือนมีนาคม 67 ก่อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนที่ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และมักจะเผลอเลอวางสิ่งของ กระเป๋า และทรัพย์สินอื่นๆเอาไว้แล้วไม่ทันระวัง อาจจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เขมร” โชว์ถอนอาวุธ BM-21 จรวด ปืนใหญ่พ้นชายแดนเขาพระวิหาร ทำตามข้อตกลงสันติภาพ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธรรมรัตน์คาเฟ่ มอบเงินสด 400,000บาท ปรับปรุงห้องผู้ป่วยพิเศษ โรงพยาบาลกำแพงเพชร
เสธ.ทบ. พร้อมด้วย มทบ.37 และ กอ.รมน.เชียงราย ร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี วัดเนื้อนาบุญ อ.เทิง จ.เชียงราย
ตำรวจเกาหลีใต้บุกค้น “อัพบิท” แหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดของปท. โยง “ฮุยวัน กรุ๊ป” ของกัมพูชา
นครสวรรค์ พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติฯ
"นิด้าโพล" คนอีสาน 32.40% ยังมองไม่เห็นคนเหมาะสมนั่งนายกฯ "อนุทิน" คะแนนนิยมนำ "เท้ง ณัฐพงษ์" แต่ชอบพรรคปชน.มากกว่าภท.

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​