พายุทอร์นาโดหลายสิบลูกถล่มภาคกลางของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ได้เกิดพายุทอร์นาโดทรงพลัง 35 ลูกบริเวณตอนกลาง ตั้งแต่ด้านทิศเหนือของรัฐเท็กซัสไปจนถึงรัฐมิสซูรี พายุที่รุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน รวมถึงเด็กอายุ 4 เดือนหนึ่งคน ในเมืองโฮลเดนวิลล์ของรัฐโอกลาโฮมา
กลุ่มพายุทอร์นาโดเหล่านี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักถึง 18 เซนติเมตรในบางพื้นที่ภายในไม่กี่ชั่วโมง และนักอุตุนิยมวิทยาเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสภาพอากาศสุดขั้วในวันอาทิตย์ ได้แก่น้ำท่วมฉับพลัน ลูกเห็บ รวมถึงพายุทอร์นาโดที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
สำหรับเมืองที่ได้รับความเสียหายหนักในครั้งนี้คือเมืองซัลเฟอร์ เมืองเล็กของรัฐโอกลาโฮมา โดยในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพอาคารหลายหลังพังทลาย รวมถึงรถยนต์ที่เสียหาย และบางคันพลิกคว่ำ และทำให้เจ้าหน้าที่ของเมืองประกาศเตือนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เดินทางเข้าเมือง วอชิงตันโพสต์รายงานว่า พายุทอร์นาโดที่พัดเข้าใส่เมืองอาร์ดมอร์ ที่อยู่ในรัฐโอกลาโฮมาเช่นกัน ทำให้เกิดกองซากปรักหักพังที่สูงถึง 6 พัน 100 เมตร จากนั้นมีพายุทอร์นาโดอีก 2 ลูกเข้ามาถล่มซ้ำ ในอีกสองชั่วโมงต่อมา จากสถานการณ์รุนแรงดังกล่าวทำให้ เควิน สติตต์ ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมา ประกาศภาวะฉุกเฉิน 30 วัน เพื่อเร่งช่วยเหลือ 12 เคาน์ตี้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า บ้านเรือนมากกว่า 5 หมื่นหลังในเท็กซัส และอีกกว่า 3 หมื่นหลังในโอกลาโฮมาไม่มีไฟฟ้าใช้เมื่อช่วงสายของวันอาทิตย์
ทั้งนี้ภาคกลางของสหรัฐมักมีพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นบ่อยครั้งในฤดูใบไม้ผลิ แต่อย่างไรก็ดี การเกิดทอร์นาโดครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากเพิ่งจะเกิดพายุทอร์นาโดชุดใหญ่ 78 ลูกเมื่อวันศุกร์ ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก