“สุรพงษ์” ลุยปัตตานี พัฒนาระบบขนส่งรถสาธารณะ เชื่อมแหล่งท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกนทท.-ปชช.ในพื้นที่

สุรพงษ์ ลงพื้นที่ปัตตานี ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสถานีขนส่งผู้โดยสาร หวังพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะ รองรับการท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

“สุรพงษ์” ลุยปัตตานี พัฒนาระบบขนส่งรถสาธารณะ เชื่อมแหล่งท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกนทท.-ปชช.ในพื้นที่ – Top News รายงาน

สุรพงษ์

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วย นางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิเชฐ คุณาธรรมารักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด ตรวจเยี่ยมการดำเนินสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานี ณ สถานีขนส่งจังหวัดปัตตานี

นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการเชื่อมโยง สนับสนุนการเดินทางสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สำคัญบนถนนสายวัฒนธรรมในย่านการค้าดั้งเดิมของเมืองท่าปัตตานี ซึ่งมีชื่อเส้นทาง ‘อา-รมย์-ดี’ โดยย่อมาจากชื่อถนน 3 สาย คือ อาเนาะรู ปัตตานีภิรมย์ และฤดี ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางพหุวัฒนธรรม เรียนรู้เกี่ยวกับเมืองท่าปัตตานี การติดต่อค้าขาย และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมมลายูผ่านอาคารบ้านเรือน ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของชาวปัตตานี รวมทั้งยกระดับการอนุรักษ์เมืองเก่า พร้อมเสนอเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมเชื่อมโยงระหว่างไทย จีน และมุสลิม

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อรับฟังข้อมูลการให้บริการสาธารณะ และแนวทางการพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะเพื่อรองรับการท่องเที่ยว และยกระดับระบบคมนาคมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งปัจจุบันการเชื่อมต่อการเดินทางท่องเที่ยวในตัวเมืองปัตตานี ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี ดังนี้

1) รถโดยสารขนาดเล็ก (ตุ๊กตุ๊ก) คิดอัตราค่าโดยสาร โดยการเดินทางรับ – ส่ง ภายในเขตเมืองปัตตานี คนละ 20 บาท และรับ – ส่ง ภายในเขตเมืองปัตตานี – สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี คนละ 30 บาท

2) รถจักรยานยนต์รับจ้าง อัตราค่าโดยสารตามกฎกระทรวงฯ ขณะที่ การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มีการให้บริการโดยรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถตุ๊กตุ๊ก) และรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้แก่ สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) มัสยิดกรือเซะ มัสยิดรายอฟาฏอนี (160 ปี) มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี หอนาฬิกา 3 วัฒนธรรม ชุมชนเมืองเก่า (กือดาจีนอ) และศาลหลักเมืองจังหวัดปัตตานี

พัฒนาระบบขนส่งรถสาธารณะ

สำหรับสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานีได้รับถ่ายโอนจากกรมการขนส่งทางบก (โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดปัตตานี) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 เพื่อดำเนินภารกิจตามพระราชบัญญัติกำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และได้เปิดให้บริการสถานีขนส่งฯ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2554 ปัจจุบันมีปริมาณรถโดยสารที่เข้าใช้สถานีขนส่งฯ นอกช่วงเทศกาล 38 – 45 เที่ยว/วัน และช่วงช่วงเทศกาล 53 – 72 เที่ยว/วัน

ในโอกาสนี้ นายสุรพงษ์ ได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดปัตตานี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี เพิ่มความถี่ของจำนวนเที่ยววิ่ง ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ผู้โดยสารมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ รวมทั้งจัดระเบียบการเดินรถในพื้นที่ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย ประมาณ 1000คน/ปี รวมทั้งให้มีการเพิ่มเที่ยววิ่งและการจองรถโดยสารล่วงหน้าในช่วงเทศกาล เพื่อสนับสนุนการเดินทางกลับบ้านและการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ให้เพิ่มจุดจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในจังหวัด อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สศร.-เชียงราย จัดงานเทศกาลดนตรี-สื่อมัลติมีเดียร่วมสมัย "East Meets West:A Chiang Rai Journey in Sound and Story"
"ปานเทพ" เผย "ท็อปนิวส์" ยอดบริจาค ผ่าน "คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" พุ่ง 30 ล้าน ประสานทหารแล้ว นำจัดซื้อโดรน อุปกรณ์ป้องชายแดน พรุ่งนี้นัดรวมตัวฟังศาลรธน.ชี้คำร้องเอาผิดนายกฯ
"รองผู้ว่าฯราชบุรี" ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการเดินเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
"บิ๊กกุ้ง" ลั่นหลังเกษียณ ไม่สนใจเล่นการเมือง หากเป็นไปได้เงิน"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" ถ้านำมอบให้ ขอจัดซื้อเป็นสิ่งของบริจาคช่วยทหารชายแเดนดีกว่า
อิสราเอลเสนอยกระดับความสัมพันธ์ซีเรีย-เลบานอน
จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น