สำนักงานบริหารความมั่นคงด้านการขนส่ง หรือ TSA ได้ดำเนินการเพิ่มค่าปรับเป็น 2 เท่าสำหรับผู้กระทำผิดไม่สวมหน้ากากอนามัย จากเดิมที่เริ่มปรับเมื่อเดือนมกราคมที่ 250 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,000 บาท โดยค่าปรับใหม่นี้ สำหรับผู้ที่กระทำความผิดครั้งแรกจะอยู่ที่ 500 – 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือ 16,300 – 32,700 บาท และสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 ค่าปรับจะอยู่ที่ 1,000 – 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 32,700 – 98,000 บาท
เมื่อเดือนที่แล้ว TSA ได้ขยายข้อกำหนดสำหรับผู้เดินทาง ในการสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบิน รถไฟ และรถประจำทางไปจนถึงวันที่ 18 มกราคม เพื่อจัดการกับความเสี่ยงของโควิด 19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ ก่อนหน้านี้ข้อบังคับถูกกำหนดให้หมดอายุในวันที่ 13 กันยายน
TSA กล่าวว่า มีผู้ให้บริการในทุกเครือข่ายการขนส่งได้รายงานเหตุการณ์ที่มีการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับหน้ากากอนามัยเข้ามามากกว่า 4,000 ครั้ง มีการส่งใบเตือนไปแล้วเกือบ 4,000 รายการ และมีการส่งขึ้นศาลแพ่งไปแล้ว 126 คดี
ด้านสำนักงานบริหารการบินแห่งสหพันธรัฐ หรือ FAA ก็ได้ออกค่าปรับที่สูงขึ้นมากสำหรับการไม่สวมหน้ากากบนเครื่องบินและสำหรับพฤติกรรมก่อกวนอื่น ๆ โดย FAA ได้เสนอบทลงโทษรวมกว่า 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งหนึ่งในบทลงโทษนั้น มีเรื่องของค่าปรับสำหรับการไม่สวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบินจำนวน 9,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 3 แสนบาท