No data was found

8 ตำบลวิกฤติพิษทำนบดินกั้นน้ำเค็มแตกทะลักเข้าคลองไร้ประปาชุมชน

กดติดตาม TOP NEWS

นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เชิญนายก อบต.8 ตำบลและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากประตูระบายน้ำแตก พร้อมเชิญตัวแทนจากรมชลประทาน ร่วมแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน เนื่องจากตอนนี้ปลาในคลองลอยตายเกลื่อน สถานีสูบน้ำประชาชุมชนไม่สามารถผลิตน้ำได้ ชาวบ้านหลายพันหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ โดยวันพรุ่งนี้เตรียมสืบน้ำจากคลองลัดยายหรั่งออกลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์ พร้อมประสานให้กรมชลปล่อยน้ำจืดลงมาช่วย โดยประสานแหล่งน้ำดิบจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไหลมาตามคลองระพีพัฒน์ ลงแสนแสบ ก่อนมาถึงคลองพระองค์เจ้า คาดใช้เวลา 4 วันมวลน้ำจืดก้อนแรกจะมาถึง

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 21.30 น. ทำนบดินที่ใช้ในการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่าถั่ว ใกล้ปากคลองประเวศบุรีรมย์ ม.3 ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ของกรมชลประทาน เกิดรอยรั่วและพังทลายลง ทำให้มวลน้ำในแม่น้ำบางปะกงซึ่ งมีค่าความเค็มในช่วง 20.83 – 26.40 กรัม/ลิตร ไหลทะลักเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ฝายที่กักเก็บน้ำไว้บริเวณปากคลองลัดยายหรั่ง มีน้ำเค็มท่วมสูงและพังทลายลงในวันที่ 10 เมษายน 2567 ทำให้มวลน้ำเค็มจำนวนมากทะลักลงสู่คลอง ลัดยายหรั่ง ออกสู่คลองหนามแดง-บางพระ คลองพระองค์ไชยานุชิต กระจายตัวไปยังพื้นที่ตำบลบางกะไห ตำบลบางเตย ตำบลโสธร ตำบลบางพระ ตำบลเกาะไร่ ตำบลคลองเปรง และตำบลคลองประเวศ ชาวบ้านหลายพันหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ สัตว์น้ำในคลองสาขาเริ่มลอยตาย น้ำเค็มทำให้ผักตบชวาในคลองต่างๆ เริ่มเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ทั้งปลาเน่าและกินเน่าของผักตบชวา หนำซ้ำสถานีสูบน้ำประปาหมู่บ้าน จำนวน 8 สถานีสูบน้ำ ไม่สามารถสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้านได้ สร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ น้ำเค็มที่ไหลทะลักลงคลองพระองค์ไชยานุชิต ที่เชื่อมต่อกับอำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ ทำให้พื้นที่การเกษตร กว่า 3 แสนไร่ได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจังหวัดสมุทรปราการได้รับผลกระทบจากมวลน้ำเค็มก้อนนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยวันนี้ ( 17 เมษายน 2567 ) ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางเตย อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา เชิญนายก อบต.ทั้ง 8 ตำบล กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากกรมชลประทาน ร่วมพูดคุยเจรจาหาทางออกในเรื่องนี้ โดยนายกิตติ เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 โดยนำพนักงานพร้อมเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการซ่อมทำนบกันดิน เพื่อปิดกั้นน้ำเค็มที่จะทะลักเข้าสู่บริเวณคลองลัดยายหรั่งอย่างเร่งด่วนทันที และดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 12 เมษายน 2567 แต่มวลน้ำเค็มที่ไหลทะลักในคลองเข้ามาแล้ว เกิดผลกระทบกับประชาชนเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ ดังกล่าว พบว่ามีค่าความเค็มอยู่ที่ 17.9 กรัม/ลิตรและมีพื้นที่ตำบลคลองเปรง น้ำเค็มได้เข้าคลองขวาง ที่ต่อกับคลองประเวศบุรีรมย์ เข้าสู่พื้นที่ตำบลคลองเปรง ตำบลหนามแดงบางส่วน โดยการดำเนินโดยเร่งด่วน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ส่งรถน้ำเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน 8 ตำบลที่ไม่มีน้ำประปาใช้ นอกจากนี้จะใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ ใส่รถน้ำฉีดพ่น เพื่อแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย ตามแต่จุดที่มีการร้องขอ จะดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูพัฒนาแหล่งน้ำ ผลักดันน้ำเค็มออกจากพื้นที่คลองหนามแดง-บางพระ โดยใช้น้ำจืดจากคลองนครเนื่องเขตเข้าทางวัดต้นตาล ผลักดันน้ำเค็มที่ยังคงนอนคลองให้มีความเจือจาง และเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และจะทำการสูบน้ำเค็มออกทางทดลัดยายหรั่ง กลับเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ ในวันพรุ่งนี้ พร้อมประสานกรมชลประทานให้เร่งปล่อยน้ำจืด มาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นการเร่งด่วน

นายวรา กลัดเนียม หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างประตุระบายน้ำท่าถั่วใหม่ ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 2 ปี ซึ่งขณะเกิดเหตุน้ำทะเลได้หนุนสูง กัดเซาะทำนบที่สร้างขึ้นมาพัง น้ำเค็มจำนวนมากจึงไหลลงคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งผู้รับเหมาและกรมชลประทานได้นำถุงบิ๊กแบ็กและเหล็กชิปพายมาทำแนวเขื่อนใหม่ทั้งหมด แต่ปริมาณน้ำเค็มที่ไหลทะลักออกสู่คลองประเวศบุรีรมย์มีจำนวนมาก ที่ผ่านมา เวลาน้ำลงจะเปิดบานประตูน้ำ เพื่อให้น้ำเค็มไหลกลับมา เวลาน้ำขึ้นก็จะใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบออก แต่ทางกรมชลไม่กล้าจะสูบน้ำจนแห้งขอดคลอง เนื่องจากกลัวปัญหาดินจะสไลด์อุ้มน้ำไม่อยู่จนตลิ่งของชาวบ้านพัง ซึ่งตอนนี้ได้ประสานขอแหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่จากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี โดยจะปล่อยปริมาณน้ำความเร็ว 20 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ให้ช่วยผันน้ำจืดลงมาช่วยแก้ไขปัญหา ณ ตรงจุดนี้ ซึ่งมวลน้ำจากเขื่อนป่าสักต้องผ่านมาทาง คลองบริเวณพระราม 6 ไหลสู่คลองระพีพัฒน์ ลงมาคลองแสนแสบ ก่อนผ่านบึงฝรั่งจนไหลมาถึงคลองพระองค์ไชยานุชิต จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึง 4 วัน โดยจะต้องใช้น้ำจืดมากถึง 34 ล้านลูกบาศ์กเมตร ในการผลักดันน้ำเค็มและเติมน้ำเข้าคลองให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 15 วันในการแก้ไขปัญหานี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พท." รุ่นเก๋าฉุน "ปานปรีย์" ลาออกทิ้งบอมบ์รัฐบาล เก่งฉลาดแค่ไหนถ้าไม่เห็นหัว ส.ส.อยู่ไม่ได้ งัดผลงาน "รมต.บัวแก้ว" ยุค "บิ๊กตู่" สอนมวยรัฐมนตรีอีโก้สูง
โซเชียลอึ้ง เชื่อมพญาวาสุกรี “น้องไนซ์” สั่งฝนหยุดตก ทำสาวกแห่สาธุ เจอชาวเน็ตสวนกลับแรง
วันแรงงานแห่งชาติ... ซีพีเอฟ ชู ศูนย์ FLEC สงขลา ผนึกความร่วมมือรัฐ เอกชน และประชาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานข้ามชาติในภาคประมง
ดวงเฮงสุด ๆ "ผู้อพยพชาวลาว" ป่วยมะเร็ง คว้ารางวัลแจ๊กพ็อตพาวเวอร์บอล ได้เงิน 4.81 หมื่นล้าน
“ครูมานิตย์” ลั่นไม่เคยเสียดาย “ปานปรีย์” เย้ยได้เป็นรมต.เพราะเป็นสส.เพื่อไทย
"ปานปรีย์" เข้ากระทรวงเก็บของ อำลาข้าราชการ กต.แล้ว
คกก.เผยเรียก “บิ๊กต่อ” สอบปมขัดแย้งในสตช.แล้ว เตรียมแถลงผลสอบสัปดาห์หน้า
เตรียมโดนเชือดเรียงตัว ศูนย์ทนายฯอัปเดตคิวฟังคำพิพากษา "แกนนำ 3 นิ้ว" ผิด" คดี 112 "ไผ่-เพนกวิน-รุ้ง-เบนจา" ตบเท้าขึ้นศาล
คุมตัว 3 โจ๋ ไล่ฟันคู่อริ ขี่จยย.ชนเสาไฟฟ้า ดับ 2 เจ็บ 1 ฝากขังศาลเยาวชนฯ ยอมสารภาพปมลงมือแล้ว
"ทนายตั้ม" ยื่นปปง.อายัดทรัพย์สิน "ภรรยาบิ๊กตำรวจ" อ้างพบข้อมูล จ่อหนีคดีเว็บพนันไปอังกฤษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น