ประธานาธิบดีสีพบนายกฯเยอรมนี ย้ำร่วมมือเสริมแกร่งการค้าระหว่างกัน เพื่อประโยชน์กลยุทธ์ระยะยาว ขณะอียูพยายามเบรกสินค้าจีน
เมื่อวันอังคารประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนพบนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีที่เรือนรับรองเตี้ยวหยูไถ่ ในกรุงปักกิ่ง ในระหว่างการเยือนจีนครั้งที่ 2 เป็นเวลา 3 วันของชอลซ์ ซึ่งในการประชุมทวิภาคี ประธานาธิบดีสีชี้ว่า ความร่วมมือระหว่างจีนและเยอรมนีไม่ใช่ความเสี่ยง แต่เป็นการรับประกันความสัมพันธ์ที่มั่นคงและโอกาสสำหรับอนาคต
สีกล่าวว่า ห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานของจีนและเยอรมนีมีความเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้ง และตลาดของทั้งสองมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างมาก จึงควรมองและพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างรอบด้าน จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว
การเยือนในครั้งนี้ของชอลซ์ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลเยอรมนีเปิดตัวกลยุทธ์ “ลดความเสี่ยง” (de-risking) เมื่อปีที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาซัพพลายเออร์จากจีนมากเกินไป และเกิดขึ้นขณะที่สหภาพยุโรปกำลังต้องการสอบสวน ภัยคุกคามต่อธุรกิจในยุโรป จากสินค้าจีน โดยเฉพาะรถอีวี และโซลาร์เซลล์ ที่ได้รับการอุดหนุนจากทางการจีน ทำให้ผลิตได้ในราคาถูกกว่า และกำลังถูกผลิตออกมามากเกินไปจนล้นตลาด
สีปกป้องนโยบายดังกล่าว โดยกล่าวกับชอลซ์ว่า การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียม และผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ของจีน ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มอุปทานทั่วโลก และบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเท่านั้น แต่ยังมีส่วนอย่างมากในการตอบสนองต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวและคาร์บอนต่ำ และว่า ทั้งสองประเทศควรระมัดระวังต่อลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น มองปัญหากำลังการผลิตอย่างเป็นกลาง จากมุมมองของตลาดโลก
สำหรับชอลซ์ เขามีความระมัดระวังในการขัดแย้งกับจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของเยอรมนี โดยกล่าวว่า อียูไม่ควรใช้ลัทธิกีดกันการค้า เพื่อปกป้องประโยชน์ของตนเอง เขากล่าวในเซี่ยงไฮ้เมื่อวันจันทร์ว่า การแข่งขันระหว่างจีนและเยอรมนีควรจะยุติธรรม เมื่อถึงจุดหนึ่ง รถอีวีจีนจะอยู่ทั้งในตลาดเยอรมนีและยุโรป สิ่งเดียวที่ต้องชัดเจนเสมอ คือการแข่งขันต้องยุติธรรม อีกนัยหนึ่ง คือ ไม่มีการทุ่มตลาด ไม่มีการผลิตมากเกินไป และลิขสิทธิ์ไม่ถูกละเมิด
เกี่ยวกับวิกฤตยูเครน สีเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็วที่สุด และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามจนควบคุมไม่ได้ และระบุว่า จีนสนับสนุนความพยายามทุกวิถีทางในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ เช่นเดียวกับจัดการประชุมสันติภาพระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับจากทั้งรัสเซียและยูเครน โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกัน