หนุ่มโคราชสุดช้ำ พบรักสาวออนไลน์ เสียเงินเป็นแสน แขนก็ไม่ได้เห็น วอนอย่าไปทำแบบนี้กับใคร ขอให้ตัวเองเป็นเคสสุดท้าย

หนุ่มโคราชสุดช้ำ ถูกสาวหลอกให้รักผ่านโซเชียล โอนเงินหมดไปเป็นแสน แม้แต่แขนก็ไม่ได้เห็น ฝากไปถึงหญิงสาว อย่าไปทำแบบนี้กับใคร ขอให้ตัวเองเป็นเคสสุดท้าย

หนุ่มโคราชสุดช้ำ พบรักสาวออนไลน์ เสียเงินเป็นแสน แขนก็ไม่ได้เห็น วอนอย่าไปทำแบบนี้กับใคร ขอให้ตัวเองเป็นเคสสุดท้าย – Top News รายงาน

หนุ่มโคราช

(6 เม.ย.67) จากกรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพ ว่า เพราะรักจึงยอมทุ่ม…เตือนหนุ่มๆ ระวังถูกหลอกหลังตามหารักแท้ ยอมโอนค่าหมูปิ้งวันละ 240 บาทเพราะเธอชอบ เป็นเปย์สาวนานนับปี…ผมคบกับผู้หญิงคนนึง เป็นเวลา 1 ปีกับอีก 1 เดือน เราคบกันแต่ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยเปิดกล้องให้ผมดูเลย มีแค่เปิดช่วงแรกๆ แต่เปิดแค่วิเดียว เป็นภาพนิ่งแบบค้างครับ ไม่เคยที่จะเปิดคุยกับผมแบบปกติเลยครับ ผมไม่รู้ว่าผมทนไปได้ไง มีแต่ผมที่เปิดอยู่ฝ่ายเดียวตอนคบกันแรกๆ เค้าบอกผมว่ามีเงินแต่ใช้ไม่ได้โดนคดีฟอกเงิน ผมสงสาร ผมก็โอนตังซื้อข้าวซื้ออะไรให้

จนคบกันได้เดือนแรกเธอบอกผมว่ามีของแบรนด์เนม อยากปล่อยเช่าของ แต่ไม่มีเงินส่งของให้แมส ผมก็ไม่รู้คืออะไรนะครับ อาทิตย์นึงส่งของประมาณ 4 วัน มีบางวันบอกลืมส่งบ้านนั้น บ้านนี้ ค่าส่งของผมต้องโอนให้วันละ 300 บาท ไม่รวมค่ากินครับ ค่ากินเค้าจะกินแต่หนูปิ้งครั้งละ 120 บาท กินวันวันละ 2 ครั้ง ผมทำแบบนี้ให้ทุกวัน จนผมเริ่มไม่มีเงิน แล้วเค้าก็ให้ผมเอาโทรศัพท์ไปขาย เอาเงินมาปล่อยกู้ ผมก็เอาโทรศัพท์ของผมไปขายได้ 39,000 บาท และเอาเงินที่เหลือไปปล่อยกู้ เพื่อนๆ ผมก็บอกว่าอย่าให้มันมายุ่งเรื่องเงินแต่ผมไม่ฟังเพื่อนผม โดนเค้าหลอกเป่าหูผมว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้ผมแล้ว มีรูปส่งมาให้ผมดู ว่าเฮีย (พี่ชาย)ของเค้าไปดูโทรศัพท์มาให้ผมแล้ว แล้วพี่ชายเค้าก็เข้าหาคนที่บ้านผมบอกจะเอาผมไปทำงานด้วย บอกบ้านเปิดร้านอาหาร แล้วก็เปิดร้านขายเสื้อผ้าของแบรนด์เนมที่คลอง 6

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบผู้เสียหาย คือน้องแฟ้มอายุ 24 ปี  หนุ่มหน้าตาดี จังหวัดนครราชสีมา เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองรู้จักกับคนชื่อทราย ซึ่งเป็นมิจฉาชีพ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์เมื่อปีที่แล้ว ผ่าน social หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยแล้วตกลงเป็นแฟน ซึ่งผู้หญิงข้ออ้างมาโดยตลอดว่ามีธุรกิจหลายอย่างที่กรุงเทพฯ

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบหากัน ได้แต่โทรคุยกัน เวลา video call ไปหา ก็ไม่เคยเปิดหน้าให้แม้แต่ครั้งเดียว อ้างว่าไม่สะดวกเพราะอยู่กับครอบครัว ซึ่งก็ทำให้ตนเองหลงเชื่อ ก่อนที่มิจฉาชีพจะเริ่มออกท่าทีในเวลาต่อมา โดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่สามารถที่จะใช้ได้ ก่อนที่จะออกอุบายต่างๆนานา จนทำให้ตนเองเกิดความสงสาร จึงอาสาช่วยเหลือ ซึ่งผู้หญิงอ้างว่าต้องการเงินเพื่อไปปล่อยเช่ากระเป๋าแบรนด์เนม เฉลี่ยตกวันละ 300-600 บาท

 

นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าหมูปิ้งมารับ 200 ค่าอินเตอร์เน็ตวันละ 200 บาท ยังไม่รวมจิปาถะ ตกเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท หากรวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 100,000 กว่าบาท โดยเงินที่โอนจะเป็นบัญชีเดิมคือนางสาวยุพเรศ จันทรทัง  ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะไปแจ้งความ คาดว่าบัญชีที่โอนไปน่าจะเป็นบัญชีม้า และอยากจะฝากไปยังมิจฉาชีพคนดังกล่าวว่า อย่าเอาเรื่องความรักมาล้อเล่น และขอให้ตนเองเป็นเคสสุดท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทนายสมุยชี้แท่งเหล็กลึกลับ อาจเป็นซากเรือโจรสลัด 300 ปี
สหรัฐ-จีนเห็นชอบให้เปิดทางสื่อสารด้านการทหาร
พัทลุงรวมพลัง “เดิน–วิ่ง–ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11”
ผู้เลี้ยงไก่ไข่ วอนรัฐเร่งพยุงราคาหน้าฟาร์ม เหตุราคาดิ่งแตะต้นทุน ขอชะลอเพิ่มโควตานำเข้าพ่อ-แม่พันธุ์ หวั่นซ้ำเติมวิกฤตในอนาคต
นราธิวาสจัดเดินวิ่งปั่นป้องกันอัมพาตพร้อมทั่วประเทศ
เชียงรายจัดกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11” ส่งเสริมสุขภาพและตระหนักรู้การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​