เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันพุธจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าคาด ทำเงินเยนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี ขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆก็ร่วงลงเช่นกัน
การเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ ไปในทางแข็งค่า หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่มากกว่าคาด ส่งผลให้เงินเยนของญี่ปุ่นแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี โดยซื้อขายที่ 151.97 เยนต่อดอลลาร์ หรือ ลดลงประมาณ 0.2 เปอร์เซ็นต์
การอ่อนค่าของเงินเยนในครั้งนี้ ยังมากกว่าการอ่อนค่าอย่างหนักในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ที่ 151.94 เยน ซึ่งครั้งนั้นทำให้ทางการญี่ปุ่นต้องเข้ามาทำการแทรกแซง ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2567 ที่กำลังจะสิ้นสุดในปลายสัปดาห์นี้ เงินเยน กลายเป็นเงินสกุลหลักของโลกที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุด โดยค่าเงินร่วงลงกว่า 7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่งสัญญาณว่า การประกาศยกเลิกอัตราดอกเบี้ยติดลบที่มีมาอย่างยาวนาน ยังไม่เห็นผลนัก
ด้านนายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ออกมาส่งสัญญาณว่า หากค่าเงินเยนร่วงลงอย่างรวดเร็วเกินไป ก็มีแนวโน้มว่าทางการจะเข้าแทรกแซงอีกครั้ง โดยแนวรับที่ 152 เยนต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับที่ตลาดให้ความสำคัญอย่างมาก หากเงินเยนแตะระดับอ่อนค่ากว่านั้น จะทำให้ตลาดเงินเกิดความปั่นป่วน และนักวิเคราะห์มองว่า จะเป็นระดับที่ทางการเข้าแทรกแซงอย่างแน่นอน
ส่วนเงินสกุลอื่นๆก็อ่อนค่าเช่นกัน โดยเงินหยวนจีนและดอลลาร์นิวซีแลนด์ซื้อขายที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เงินหยวนอ่อนค่าลงเป็น 7.2285 ต่อดอลลาร์ แม้แบงค์ชาติจีนจะออกมาตรการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.2 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 0.5988 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ ได้ประกาศลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อวันอังคาร
ด้านสกุลเงินออสซี่ร่วงลง 0.3 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 0.6515 ต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังออสเตรเลียประกาศอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ร้อยละ 3.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตอกย้ำการเดิมพันของตลาด ที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย
ขณะที่เงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.0825 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์ต่อไตรมาส ส่วนฟรังก์สวิส ลดลงประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือนที่ 0.9042 ในชั่วข้ามคืน
ทั้งนี้ ทิศทางค่าเงินของตลาดเอเชียเพิ่มเติมจากนี้ ต้องรอดูการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อหลักของสหรัฐในวันพรุ่งนี้