“เทพไท” เชื่อถ้าศาลฏีกาฯไต่สวนครบ 5 ประเด็น จากปากพยานสำคัญ รวม”วิษณุ” มั่นใจ “ทักษิณ” ต้องกลับนอนคุกจริงๆ

"เทพไท" เชื่อถ้าศาลฏีกาฯไต่สวนครบ 5 ประเด็น จากปากพยานสำคัญ รวม"วิษณุ" มั่นใจ "ทักษิณ" ต้องกลับนอนคุกจริงๆ

วันนี้ 3 มี.ค.68 เวลา 08.00 น.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “ศาลฎีกา ทำความจริงให้ปรากฎ”

กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้รับไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งศาลฎีกาได้ให้ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงส่งให้ศาลฎีกา ภายใน 30 วัน และนัดไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน 2568

ส่วนตัวเชื่อว่าเจตนาของศาลฎีกา ต้องการทำความจริงให้ปรากฏว่า นายทักษิณได้ปฏิบัติตามหมายศาลที่มีคำสั่งให้จำคุกจริงหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 55 เพื่อให้เรื่องข้อเท็จจริงเรื่องนี้ปรากฏชัด นอกจากศาลฎีกาจะเรียกไต่สวน ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว เพื่อให้หลักฐานได้ครบถ้วนสมบูรณ์ว่า นายทักษิณได้ติดคุกจริงหรือไม่ก็ น่าจะมีอยู่ 5 ประเด็น ที่ศาลฎีกาน่าจะเรียกไปซักถามข้อเท็จจริงด้วยคือ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ได้ออกมายืนยันว่านายทักษิณได้เข้าเรือนจำแล้ว เข้าไปอยู่ในห้องขังที่มีลูกกรงเหล็ก และได้ถ่ายรูปทำบัตรนักโทษ ถ้าหากว่าข้อมูลที่นายวิษณุออกมายืนยันเป็นเรื่องจริง ก็ต้องถามหาหลักฐานว่า การถ่ายรูป ทำประวัตินักโทษต้องเอามาแสดงด้วย

2.เอกสารทางการแพทย์ที่วินิจฉัยว่านายทักษิณป่วยวิกฤต จำเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจในทันที โดยไม่ต้องรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต้องดูว่าแพทย์คนใดเป็นคนเซ็น เป็นคนวินิจฉัย ต้องขอหลักฐานด้วย

3.ระหว่างที่รักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จะต้องมีบันทึกอาการป่วยการให้ยา การดูแลรักษา เป็นความเห็นของแพทย์ หรือที่เรียกว่าเวชระเบียน จะต้องมาดูว่ามีจริงหรือไม่ เพราะเวชระเบียนจะอธิบาย บันทึกเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่

4.ระหว่างรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตามพรบ.ราชทัณฑ์ ถือว่าเป็นสถานที่คุมขัง ต้องมีผู้คุมไปดูแลควบคุมอย่างน้อย 2 คน ต้องมีบันทึกเหตุการณ์ประจำวัน ถ่ายรูปนักโทษรายงานผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพทุกวัน ต้องมีผู้บริหารไปตรวจและลงบันทึกในสมุดสีน้ำเงินเล่มใหญ่ ต้องเรียกมาดูว่าได้มีบันทึกในสมุดสีน้ำเงินเล่มใหญ่ครบถ้วนหรือไม่

 

 

5.มีพยานบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นประจักษ์พยาน อย่างน้อย 3 คน ที่ศาลควรจะเรียกไปให้ปากคำ หรือให้ถ้อยคำ คือ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งทั้ง 3 คนได้เข้าเยี่ยมและยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้ป่วย มีการพูดคุยกันเป็นปกติ และนางสาวแพทองธารได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายทักษิณอยู่ระหว่างการพักฟื้น ซึ่งถ้ากำลังพักฟื้น ก็ต้องกลับไปพักฟื้นรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่ใช่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

ผมเชื่อว่าถ้าศาลฎีกาได้สอบสวนไต่สวนจนครบทุกประเด็น จะทำให้ความจริงปรากฏว่า นายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการถูกจองจำ หรือถูกคุมขังในเรือนจำ เพราะฉะนั้นเพื่อให้เป็นไปตามหมายศาลที่สั่งจำคุก ศาลต้องออกหมายศาลใหม่ เพื่อนำตัวนายทักษิณไปจำคุกจริงอีกครั้ง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"GLO" จัด Kid Dee Roadshow ภาคเหนือ เสริมพลังคนรุ่นใหม่รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภูมิธรรม” ชี้ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ยันยึดมาตรการตามเดิม ไม่มีผ่อนปรนเข้า-ออก ข้ามแดน
"บิ๊กเล็ก" แจงเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันคุยทางออกขัดแย้งกัมพูชา ไม่ได้หมายถึง "เตีย เซียฮา" ขอเชื่อมั่น ไว้ใจนำสงบสุขกลับคืน
"อ.ไชยันต์" ซัด "ไอติม พริษฐ์" อ้างเหตุปชน.ไม่ร่วมยื่นซักฟอก "นายกอิ๊งค์" ทำปชช.เสียโอกาส สวนเจ็บ รัฐสภาอังกฤษ เขียนชัด จริยธรรมนักการเมือง อย่าทำไม่รู้เห็น 
ปั๊มน้ำมันระเบิดดังสนั่นทั่วกรุงโรมของอิตาลี
"โฆษกทบ." แจงเหตุ "ทหารพรานไทย" ปะทะคารม "ทหารกัมพูชา" จุดชมวิวภูผี ไม่ถึงขั้นรุนแรง ย้ำต่างฝ่ายต่างยึดข้อตกลง
"จุลพันธ์" อ้างเหตุครม.ใหม่ เตรียมถอนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์-กาสิโน พิจารณาซ้ำ ยันไม่เกี่ยวปมขัดแย้งกัมพูชา
ดร.เฉลิมชัย ปิดหลักสูตร ปธส. 12 มุ่งสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ท่ามกลางวิกฤตโลกเดือด
"มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งหลวง ราชบุรี มอบรถเข็นวีลแชร์ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
"หมอวรงค์" สรุปแยกเป็นข้อๆ ไต่สวนแพทย์-พยาบาล รักษา "ทักษิณ" พิรุธหนัก แพทย์อ้างส่งไปรพ.ตร. เพราะ "พยาบาลเวร" วินิจฉัยอาการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น