เปิดบันทึก “ครูรร.มัธยมวัดธาตุทอง” เคยถูกกล่าวตักเตือนเมื่อ ปี 64 มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม

เปิดบันทึก "ครูรร.มัธยมวัดธาตุทอง" เคยถูกกล่าวตักเตือนเมื่อ ปี 64 มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม

เปิดบันทึก “ครูรร.มัธยมวัดธาตุทอง” เคยถูกกล่าวตักเตือนเมื่อ ปี 64 มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม  Top News รายงาน 

 

มัธยมวัดธาตุทอง

 

 

หลังจากที่โซเชียลมีเดีย มีการแชร์ข้อสอบปลายภาค ของโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง วิชา สาระร่วมสมัย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยข้อสอบนี้เป็นข้อสอบแบบพูดปากเปล่า ในรูปแบบ Keyword มีจํานวนทั้งสิ้น 50 ข้อ โดยนักเรียนจะเป็นผู้สุ่มเลือกข้อสอบเอง ด้วยการจับฉลาก และนักเรียนจะมีเวลาอธิบาย Keyword ที่นักเรียนจับฉลากได้ 3 นาที หลังจากพูดจบ จะมีคําถามจากครูผู้สอน 2 คําถาม และมีเวลาในการตอบคําถามอีก 2 นาที

 

 

 

 

 

 

ซึ่งถ้าเป็นคีย์เวิร์ดทั่วๆ ไป ก็คงไม่มีดราม่าเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าครูที่ออกข้อสอบหวังผลอะไรบางอย่าง เช่นคีย์เวิร์ดคำว่า 112 ลี้ภัยทางการเมือง นิติสงคราม ไม่นับถือศาสนา คนเท่ากัน หรือคนไม่เท่ากัน สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย ขบวนเสด็จ สิทธิมนุษยชนผู้ต้องขัง ประชาธิปไตยแบบไทยไทย เป็นต้น คำถามเกิดขึ้นตามมาทันทีว่า แล้วเด็กจะต้องตอบแบบใดถึงจะถูกใจผู้ให้คะแนน โดยหลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาถล่มคอมเมนต์กันเพียบ

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านี้ ทีมข่าว TOPNEWS ได้สอบถามเรื่องนี้ไปกับ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า โดยอาจารย์ได้ให้ข้อคิดไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า การสอนแบบนี้เป็นการส่งเสริมให้เด็กแสดงความคิดเห็น โดยปราศจากความรู้ ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กคือ เด็กจะมีความมั่นใจแต่ไร้สติ พูดและวิจารณ์โดยที่ไม่มีความรู้จริงถึงสิ่งนั้นๆ ดังนั้นคนที่เป็นครูมีหน้าที่สอนให้เด็กมีหน้าที่แสวงหาความรู้และข้อเท็จจริงอย่างทะลุปรุโปร่งเสียก่อน จนสามารถวิจารณ์ได้ ถ้ารู้ไม่จริง อย่าได้บังอาจ หรืออาจหาญไปวิจารณ์เกินเลย เพราะมันจะแสดงถึงสมองของคนที่พูดออกมา

ล่าสุดมีเปิดเผยข้อมูลการบันทึกการว่ากล่าวตักเตือน เขียนที่โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง เมื่อวันศุกร์ที่ 3 เดือนกันยายน พ.ศ. 2564

 

 

 

ด้วยนายหนึ่ง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ได้กระทำการไม่เหมาะสมในกรณี การสื่อสารและแสดงความคิดเห็น เช่น สื่อสารในที่ประชุม สื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สื่อสารผ่านไลน์กลุ่ม ฯลฯ ด้วยพฤติกรรมและพฤติการณ์ ดังต่อไปนี้

 

1. ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการสื่อสารความคิดเห็น

2. วิพากษ์ วิจารณ์ผู้ร่วมประกอบวิชาชีพในทางเสียหาย อันเป็นการไม่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างสร้างสรรค์ และไม่เป็นไปตามหลักคุณธรรมในการสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ

3.แสดงความไม่พึงพอใจหากไม่ปฏิบัติตามความคิดเห็นของตนที่เสนอแนะโดยนำไปโพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความไม่ปกติสุขให้กับเพื่อนร่วมประกอบวิชาชีพและอาจเสื่อมเสียถึงเกียรติภูมิของโรงเรียน

4.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาในการห้ามเผยแพร่ข้อมูลทางราชการภายใน

โรงเรียนออกสู่สื่อสาธารณะภายนอกในเชิงลบและไม่สร้างสรรค์

5. กล่าวหาเพื่อนผู้ร่วมประกอบวิชาชีพอย่างไม่เหมาะสมและไม่สร้างสรรค์ อันอาจ

ทำให้ผู้อื่นที่ได้รับฟังเกิดความเกลียดชังต่อผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นได้

6. บิดเบือนข้อมูล สร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้เรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลากรตลอดจนผู้คนในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลให้ทั้งตนเอง ผู้ร่วมประกอบวิชาชีพและโรงเรียน ได้รับ

ความเสียหาย เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ ซึ่งเนื้อความอาจเข้าข่ายดูหมิ่น ประชดประชัน สีเสียด ใส่ความกล่าวหา ให้ร้าย ผู้อื่น และอาจถึงขั้นหมิ่นประมาทได้

 

 

ทั้งนี้การสื่อสารผ่านความคิดเห็นของตน แม้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่บุคคลทุกคนสามารถกระทำได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้อื่นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูง เป็นข้าราชการครูที่ผู้คนให้ความเคารพ ยกย่อง และศรัทธา จึงต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อนร่วมประกอบวิชาชีพ และประชาชนโดยทั่วไป ในการนี้ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน นายก้าวกรณ์ สุขเสงี่ยมกุล เพื่อให้พึงระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการและรักษาวินัยโดยเคร่งครัดอยู่เสมอ และขอให้ ศึกษาเกี่ยวกับระเบียบแบบแผนและธรรมเนียมทางราชการที่พึงยึดถือปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้

 

 

1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547

แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. 2551, (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 และ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564

2. ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วย แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพ พ.ศ. 2556

3. คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะบทที่ 5 ลักษณะของครูที่ดี หน้า 113 – 135

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Recharge Market เติมพลังใจให้ SME ไทยได้ไปต่อ
"อนุทิน" โต้ "ณฐพร" ลั่นไร้สาระ ยื่นยุบภูมิใจไทย ล้มล้างการปกครอง
"สบท." รุกยื่นระงับเลือกเลขาฯ "สภาองค์กรของผู้บริโภค" จี้สอบใช้งบฯ 600 ล้านไม่โปร่งใส
รูปปั้นเมลาเนียสตรีหมายเลข 1 สหรัฐที่สโลวีเนียถูกขโมย
"บิ๊กเต่า" ลุยเองนำทีมเก็บพยานหลักฐานเพิ่ม จัดระบบบัญชี "วัดไร่ขิง" ยันไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร
"สภาพัฒน์" ปรับ GDP ไทยปี 68 เหลือขยายตัวแค่ 1.3–2.3% เจอปัญหาหนี้ครัวเรือน พิษภาษีสหรัฐฯ
"หมอวรงค์" ย้ำ 3 ข้อควรรู้กลโกงจำนำข้าว ก่อนฟังศาลปกครองสูงสุด พิพากษา คดี "ยิ่งลักษณ์" ชดใช้เงิน 3.5 หมื่นล้าน
สว.ทยอยรับทราบข้อหากกต. คดีฮั้ว "บิ๊กเกรียง" ประเดิมคนแรก บอกโล่งใจ
ศาลอนุมัติหมายจับ "4 ผู้ต้องหา" คดีอุ้มฆ่า "ดีเจเตเต้" แจ้ง 5 ข้อหาหนักเอาผิด
สืบสัตหีบตามรวบถึงนนทบุรี โจรขโมยเตียงเหล็กกู้ภัยไปขาย หลังวงจรปิดและชาวบ้านช่วยกันบันทึกภาพเป็นหลักฐาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น