“บิ๊กเต่า” ลุยเองนำทีมเก็บพยานหลักฐานเพิ่ม จัดระบบบัญชี “วัดไร่ขิง” ยันไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร

"บิ๊กเต่า" ลุยเองนำทีมเก็บพยานหลักฐานเพิ่ม จัดระบบบัญชี "วัดไร่ขิง" ยันไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา (19 พ.ค.68) พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  เจ้าหน้าที่ สตง. และตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้เดินทางมาที่วัดไร่ขิง เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องของการเงินที่วัด หลังพบว่าการบริหารงานของวัดไร่ขิง มีความไม่โปร่งใส เพราะมีบัญชีที่เปิดไว้ในธนาคารจำนวน 10 บัญชี แต่มีเพียง 6 บัญชี ที่ดูไม่โปร่งใส จึงทำให้วันนี้ต้องมาตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม โดยได้เข้าไปร่วมประชุมกันที่แผนกการเงินของวัดไร่ขิง

 

 

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมเข้ามาตรวจสอบการเงินของวัดไร่ขิง เนื่องจากตรวจสอบพบว่าการบริหารเงินของวัดไร่ขิง มีบางสิ่งบางอย่างที่ดูไม่โปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องของบัญชีวัดที่ทราบข่าวก่อนหน้านี้แล้วว่ามี 6 ใน 10 บัญชี ที่ดูไม่ปกติ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเส้นเงินอย่างละเอียด ว่าทั้ง 6 บัญชี ที่ไม่ปกตินี้ มีความเคลื่อนไหวทางการเงินถึงใครบ้าง หากตรวจสอบแล้วมีบุคคลอื่น ทั้งพระ หรือประชาชน เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เข้ามาร่วมตรวจสอบพร้อมกันนั้น เพราะอยากจะเข้ามาจัดการบัญชีวัดให้มีความชัดเจน โปร่งใส เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าการบริหารเงินของวัดไม่โปร่งใส ชี้แจงอะไรไม่ได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการเงินเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าว ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำพยานนั้น สอบไปแล้ว 10 กว่าปาก มีทั้งพระสงฆ์ ฆราวาส รวมถึงตัวของนางสาวเตย หรือหมอเตย ซึ่งเป็นบุคคลสนิทกับสมีแย้ม เบื้องต้นยังให้การอะไรไม่มาก แต่คาดว่าตัวของหมอเตย น่าจะรู้ความเคลื่อนไหวทางการเงินของวัด อีกทั้งคำให้การของหมอเตย ก็ยังคงไม่ตรงกับคำให้การของสมีแย้ม หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเฉพาะเส้นทางการเงิน ว่าระหว่างบัญชีวัด กับทางหมอเตย มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ โดยยืนยันว่า เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

 

 

นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดพิธีวันอัฏฐมีบูชา หรือวันถวายพระเพลิงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีพระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งในพิธีนั้น ทางพระราชวชิรสุตาภรณ์ ได้แสดงพระธรรมเทศนา ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวัด และขอให้พุทธศาสนิกชนตั้งมั่นในหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องเฉพาะบุคคล

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจดูบรรยากาศภายในวัด พบว่ายังคงมีรูปของสมีแย้ม ติดอยู่ไปทั่ว ซึ่งทางวัดยังไม่ได้ปลดรูปอดีตเจ้าอาวาส ลงแต่อย่างใด อีกทั้งประชาชนบางคนเดินผ่านไปผ่านมา ก็ยังยกมือไหว้ตามปกติ มีบางคนเชื่อว่าสักวันหนึ่งอดีตเจ้าอาวาส อาจจะกลับมาที่วัดไร่ขิงแห่งนี้อีกครั้ง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"Top Biz Insight" เปิดเบื้องหลังธุรกิจ "ทหารรับจ้าง" PMSCs ค่าตอบแทนไม่ธรรมดา ความเลวร้ายที่ "กัมพูชา" ไม่สิทธิใช้กับประเทศไทย
จับเครือข่ายสิ่งเสพติดรายใหญ่ บรรจุอาหารกระป๋อง
“ซาบีดา” เปิดโครงการต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีเมืองสวรรค์ หนุนอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ สร้างพลัง Soft Power จังหวัดนครสวรรค์
ผู้ตรวจการอัยการลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการในพื้นที่ภาค 8
สภ.เมืองเชียงราย จับกุมผู้ต้องหาลอบขนยาบ้า 2 แสนเม็ด ขณะขึ้นรถทัวร์จะมุ่งหน้าเข้า กทม.
รวมพลัง! ราชการ–เอกชน–ปชช. แห่บริจาคหนุน “เพชรบูรณ์พาโชค” เตรียมลุยงานมะขามหวาน 2569

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​