ก่อนหน้านั้น นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานศาลปกครองว่า ในวันพฤหัสบดีนี้ เวลา13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดฟังการอ่านคำพิพากษา ในคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวกรวม 2 คน ฟ้องคดีกับนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม9 คน ในคดีที่กระทรวงการคลังได้มีคำสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในโครงการรับจำนำข้าว หลังก่อนหน้านี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชนะคดีมาแล้วในชั้นศาลปกครองกลาง แต่ผู้ถูกร้องคือกระทรวงการคลัง ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ขอไม่ให้ความเห็นตอนนี้ขอให้รอดูผลคำตัดสินที่จะออกมา
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ กรมบังคับคดีอายัดและยึดทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์ ไปจำนวนเท่าใด และหากชนะคดีแบบที่ศาลปกครองกลาง จะฟ้องกลับหน่วยงานรัฐที่อายัด-ยึดทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า เท่าที่จำได้มีการยึดอายัดทรัพย์ของอดีตนายกฯไปมากแล้ว และพบว่านำทรัพย์สินบางส่วนไปขายด้วย แต่ตัวเลขที่มีการอายัด-ยึดทรัพย์ไปก่อนหน้านี้จำไม่ได้ว่าเป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งหากผลออกมาเช่นถ้าชนะคดี ก็จะทำให้ทรัพย์สินที่อายัดไว้ก็ต้องปลดล็อกการอายัด ส่วนเรื่องการฟ้องกลับหรือไม่นั้น ตอนนี้ทีมทนายความยังไม่ได้คิดตรงนั้น ต้องรอฟังผลคำตัดสินวันศุกร์นี้ก่อน แต่ทราบว่าก่อนหน้านี้อายัดทรัพย์ไปเกือบหมดแล้ว และนำทรัพย์สินไปดำเนินการอยู่ระหว่างการรอขายทอดตลาด
สำหรับคดีนี้ ย้อนไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย