“ตำรวจทางหลวง” รวบคนขับไปรษณีย์ หลังลอบขนสินค้าหนีภาษี ใส่กล่องพัสดุหวังตบตาจนท.

"ตำรวจทางหลวง" รวบคนขับไปรษณีย์ หลังลอบขนสินค้าหนีภาษี ใส่กล่องพัสดุหวังตบตาจนท.

วันที่ 8 มี.ค.67 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุม นายสุพิศ อายุ 64 ปี พนักงานขับรถ บริษัทไปรษณีย์ไทย พร้อมของกลาง ซึ่งเป็นสินค้าหนีภาษีประกอบด้วย เบียร์ต่างประเทศ ที่ไม่ติดอากรแสตมป์นำเข้ากว่า 9 ยี่ห้อ หรือรวมจำนวนกว่า 22,920 กระป๋อง , บุหรี่ ซิกาแรทต่างประเทศ กว่า 26 ยี่ห้อ หรือจำนวนรวมกันกว่า 22,060 ซอง และรถบรรทุก 6 ล้อ ด้านข้างรถเขียนคำว่า “ไปรษณีย์ไทย” ยี่ห้อ ฮีโน่ สี แดง-ขาว หมายเลขทะเบียน 70-9113 นนทบุรี โดยจับกุมได้ บริเวณถนนหลวง 317 กม.76 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2567 เวลาประมาณ 15.00 น.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตรวจ สืบทราบว่าห้วงเวลาตั้งแต่เดือน มี.ค.67 จนถึงห้วงปลายเดือน เม.ย.67 จะมีการลักลอบขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย จากชายแดนประเทศกัมพูชา ผ่านด่านชายแดนพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน เข้ามาในประเทศไทย จึงเพิ่มกำลังตรวจตราและตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบขนของผิดกฎหมาย

กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ขณะที่เจ้าพนักงานตำรวจทางหลวงชุดจับกุมได้ออกตรวจตราในพื้นที่ เขตรับผิดชอบ พบนายสุพิศ ขับรถบรรทุก 6 ล้อ ของบริษัท “ไปรษณีย์ไทย” ผ่านมาลักษณะน่าสงสัย จึงเรียกให้หยุดและแสดงตัวของตรวจสอบพบว่ามีการบรรทุกสิ่งของมีน้ำหนักกว่า 21,965 กก. ซึ่งเกินกฎหมายกำหนดไว้ว่า รถบรรทุก จำนวน 2 เพลา 4 ล้อ เพลาหลังใช้ยางคู่ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15,000 กก. รถบรรทุกดังกล่าวจึงมีน้ำหนักเกินถึง 6,965 กิโลกรัม

 

 

จากการตรวจสอบภายในรถ พบกล่องพัสดุหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละกล่องไม่ได้ระบุชื่อ ที่อยู่หรือ เบอร์โทรศัพท์ของผู้ส่ง แต่จากการตรวจสอบหมายเลขพัสดุพบว่าผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ส่งคือชาวไทยซึ่งเป็นนายหน้ารับส่งพัสดุในพื้นที่ชายแดนประเทศไทย ส่วนรายละเอียดผู้รับระบุเพียงชื่อเล่น ที่อยู่ และเบอร์โทร ลักษณะน่าสงสัยจึงได้ทำการเปิดกล่องพัสดุเพื่อตรวจสอบ พบสินค้าหนีภาษีของกลางซุกซ่อนอยู่ จึงจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมแจ้งดำเนินคดีข้อหา
1.“ใช้ยานพาหนะบนทางหลวงโดยที่ยานพาหนะนั้นมีน้ำหนักบรรทุกหรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่กำหนด” (พ.ร.บ.ทางหลวง ม.61 ม.73/2 และประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน ลงวันที่ 22 ธ.ค.2548 เรื่องห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนดฯ)
2. ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งของที่ตนรับรู้ว่า เป็นของที่ยังไม่ได้เสียภาษีหรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้ามหรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังไม่ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้องหรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อจำกัด หรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้น

ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สอยดาว จ.จันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป.

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ธนัตถ์สิษฐ์-ณัฐนรี คว้าแชมป์คลาสเอ ชาย-หญิง เจจีทีซี สนาม 6 ที่โลตัสวัลเล่ย์
ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2568
เปิดตัวเลข "แรงงานไทย-กัมพูชา" เทียบค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ประเทศ
ทีม JBC แถลงผลประชุมกัมพูชา ชี้ไทยผิดหวัง "ผู้นำฮุน" จ้องแต่ฟ้องศาลโลก เอา 4 พื้นที่พิพาท ยื่นคำขาดปิดด่าน
"สรรเพชญ" เตือนรัฐบาลเผชิญศึกนอกใน ระวังไทยเสี่ยงเสียบทบาทภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาขัดแย้งกัมพูชาโดนชาติอื่นแทรกแซง
4ส.15 สถาบันพระปกเกล้า ลุยอีสาน ศึกษาพื้นที่อุบลฯ จุดประกายแนวคิด “สันติสุข-พัฒนาชุมชน”
ไฟฟ้าตราด เผย จ.เกาะกง ยังใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย พร้อมตัดไฟทันทีหากรัฐบาลมีคำสั่ง
จันทบุรี บรรยากาศด่านชายแดน หลังประชุม JBC แรงงาน มีการผ่อนคลายเล็กน้อย
ระทึก ทั้งร้านล้อรถพุ่งเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวโชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
"ปานเทพ" เสนอ 7 ข้อเรียกร้อง รัฐบาลสร้างความชัดเจน ผลเจรจา JBC ยกเลิกได้แล้ว MOU43-44

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น