BBC รายงานว่าไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเฮลลี่ย์ ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคริพับลิกันไปสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในการเลือกตั้งขั้นต้นพร้อมกัน 15 รัฐหรือ Super Tuesday ให้กับทรัมป์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5 มีค.) ทรัมป์ซึ่งกลายเป็นผู้สมัครจากพรรคริพับลิกันเพียงคนเดียวได้ประกาศท้าชิงไบเดนให้มาขึ้นเวทีโต้คารมกันทันที
โดยทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่าน “Truth” แพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเองเมื่อวานนี้ (พุธที่ 6 มีค.) ระบุว่า เขาพร้อมที่จะดีเบทกับไบเดน ผ่านจอทีวี “เมื่อไหร่ ที่ไหน ได้หมด” และว่าการโต้คารม เพื่อถกเถียงในประเด็นสำคัญๆที่อยู่ในความสนใจของคนอเมริกันถือเป็นสิ่งสำคัญ
ด้านทีมหาเสียงของไบเดนออกมาโต้กลับพร้อมกล่าวหาทรัมป์ว่าเรียกร้องความสนใจพร้อมเสนอแนะว่าหากทรัมป์อยากฟังนโยบายของไบเดนจริงๆ ก็ไม่ต้องรอไปถึงการโต้คารม แต่ให้รอฟังการแถลงนโยบายประจำปีหรือ เดอะ สเต็ท ออฟ เดอะ ยูเนียน (The State of the Union) ของไบเดนในคืนวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 7 มีค.ตามเวลาท้องถิ่น) และว่าช่วงเวลานี้ควรคุยกันเรื่อง The State of the Union จะเหมาะสมกว่า
ด้านทรัมป์ตอบกลับว่าเขาจะรอฟังคำแถลงและรอแก้คำพูดผิดๆของไบเดน
ทรัมป์วัย 77 ปีมักกล่าวเยาะไบเดนวัย 81 ปีว่าอายุมากเกินไปและขี้ลืม จนไม่กล้าดีเบทกับเขา ขณะที่ไบเดนก็ตอกกลับว่าทรัมป์อายุมากจนสมองเสื่อม ทั้งนี้ในศึกเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน ไบเดนได้ขึ้นเวทีดีเบทกับทรัมป์ 2 ครั้ง