“พาวเวอร์แบงก์ระเบิด” รู้เหตุผลทำไมความจุ 32,000 mAh ห้ามบิน
- เผยแพร่ : 25/02/2024 12:50
กดติดตาม TOP NEWS
"พาวเวอร์แบงก์ระเบิด" AirAsia ระทึกกลางเวหา ทำไมถึงห้ามนำ Powerbank ขนาดมากกว่า 32,000 mAh ขึ้นเครื่องในทุกกรณี
ข่าวที่น่าสนใจ
ชี้แจงกรณี “พาวเวอร์แบงก์ระเบิด” เที่ยวบิน FD3188 ดอนเมือง – นครศรีธรรมราช
การนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน
- ห้ามนำ Powerbank โหลดใต้ท้องเครื่องบิน ต้องนำใส่ในสัมภาระที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบินเท่านั้น
- Powerbank ความจุ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 100Wh หรือ 20,000 mAh นำติดตัวขึ้นเครื่องได้
- Powerbank ความจุ มากกว่า 100Wh ถึง 160 Wh หรือมากกว่า 20,000 mAh ถึง 32,000 mAh นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ (ไม่เกิน 2 ชิ้น)
- Powerbank ความจุ มากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ห้ามนำติดตัวขึ้นเครื่อง
- สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้า วัตต์-ชั่วโมง (Watt-Hour : Wh) หรือขนาดบรรจุของลิเธียม (Lithium Content : LC) หรือระบุไม่ชัดเจน ห้ามมิให้พาไปกับเครื่องบิน ไม่ว่าจะใส่ในสัมภาระติดตัวหรือสัมภาระลงทะเบียนก็ตาม
Powerbank ขนาดมากกว่า 32,000 mAh ขึ้นเครื่องไม่ได้?
สาเหตุที่ Powerbank ความจุมากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่เกินไป และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ แบตเตอรี่สำรองทุกชนิดจัดเป็นวัตถุอันตรายประเภทหนึ่ง เพราะมี ลิเธียม อยู่ภายใน ซึ่งแบตเตอรี่ลิเธียมสามารถเกิดการลัดวงจรได้ หากได้รับความร้อนสูงหรือแรงกระแทกอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งกรณีฉุกเฉินอาจทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ส่วนวิธีตรวจสอบความจุไฟฟ้าของ Powerbank ให้สังเกตจากฉลากที่ติดอยู่บนตัวเครื่อง ซึ่งจะระบุข้อมูลความจุไฟฟ้าเป็นหน่วย mAh หรือ Wh หากฉลากไม่ระบุข้อมูลความจุไฟฟ้า อาจถูกเจ้าหน้าที่ห้ามนำขึ้นเครื่องได้เช่นกัน ดังนั้น ควรจะรู้เบื้องต้นว่าแบตเตอรี่สำรองที่มีอยู่ขนาดความจุเท่าไหร่ หากเกินจากที่กำหนดก็ไม่ควรจะพกพาไปด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
