วันนี้(23 เม.ย.64) นายแพทย์ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนนักรบชุดขาวสู้ภัยโควิด-19 แพทยสภา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว TOPNEWS เกี่ยวกับสถานการณ์ ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด19 มีการหนักจากเชื้อที่ลุกลามลงปอดมากขึ้น และอัตราการเสียชีวิตก็สูงขึ้น ว่า สถานการณ์ที่ผู้ป่วยจำนวนมาก จำนวนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลหลัก เตียงเสริม ก็เริ่มเต็ม ส่วนผู้ป่วยสีเขียวยังมีพื้นที่เตียงของ Hospitel และ โรงพยาบาลสนามเริ่มเต็ม วันนี้รัฐบาลจึงเริ่มแนวคิด Home isolation การกักตัวเองในที่พักอาศัย ซึ่งรัฐต้องช่วยด้วยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อให้รักษาตัวที่บ้าน แต่ก็เป็นปัญหาอีก เพราะคนเราพื้นที่ครอบครัวไม่เท่ากัน บางคนบ้านเป็นห้องเดียว อยู่ด้วยกันหลายคน จะกักตัวได้อย่างไร ก็ไม่สะดวก ไม่เหมือนคนรวยที่บ้านมีห้อง แล้วสามารถแยกห้องกักตัวได้ ฉะนั้นแล้ว ผมจึงเห็นควรว่า รัฐบาลต้องจัดหา จัดซื้อ ยาฟาวิพิราเวียร์ ให้มีจำนวนมาก มีให้เยอะให้ยารอผู้ป่วย ไม่ใช่ให้ผู้ป่วยมารอยา เหมือนในสถานการณ์แบบนี้ ไม่งั้นก็จะเป็นการนอนรอยา ซึ่งก็มีขั้นตอนการเบิกที่ยุ่งยาก และช้าข้ามวันส่งผลให้มียอดผู้ป่วยที่อาการหนัก เชื้อลามลงปอดเพิ่มสูงขึ้น
นายแพทย์ชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ตอนนี้ กระทรวงสาธารณสุขมียาฟาวิพิราเวียร์อยู่ในมือไม่กี่แสนเม็ด ประมาณ 3 แสนเม็ด ซึ่งจะสั่งเข้ามาเพิ่มอีกแต่ที่คำนวณไว้ในภาวะปัจจุบันต้องเพิ่มอีกหลายล้านเม็ด จำนวนเม็ดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่การกระจายยาไปสู่โรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศนั้นสำคัญ ต้องทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ มีอาการไอ เจ็บคอ ก็สามารถที่จะได้รับยา ฟาวิพิราเวียร์ อย่างรวดเร็วไม่ใช่รอให้เชื้อลงปอดแล้วถึงจะได้รับยา
นายแพทย์ชัยวัฒน์ อธิบายกรณียาฟาวิพิราเวียร์ว่า แต่เดิมมันแพง เม็ดละร้อยกว่าบาทและหายาก แต่ตอนนี้ลิขสิทธิ์ที่แรกเป็นของญี่ปุ่นได้หมดลิขสิทธิ์แล้ว ทำให้คนผลิตจากจีนและอินเดียทำให้ยาราคาถูกมาก ที่คำนวณล่าสุดตกเม็ดละ 6 บาท ผู้ป่วย 1 คนจะใช้ 70 เม็ด ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนไม่มีเพราะกระทรวงสาธารณสุขเป็นคนควบคุมทั้งหมด เมื่อจำเป็นต้องเบิกใช้ ก็จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรค พิจารณาจ่ายยาให้ โอกาสที่ผู้ป่วยจะไม่ได้รับยา หรือได้รับช้า ไม่ต่อเนื่องก็มีสูงมาก อย่างเช่น กรณีรพ.เอกชนขนาดใหญ่ ในกรุงเทพฯ มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 186 คน มี ICU 10 คน เจ้าหน้าที่เบิกยา Favipiravir จาก รพ.ราชวิถีไม่ได้เลย หรือกรณี รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ที่มีผู้ป่วยยืนยัน 8 ราย แต่มียาเพียงพอสำหรับ 4 ราย จึงต้องเลือกคนที่อาการหนักที่สุดในการแจกจ่ายยาให้
เมื่อถามว่า ข้อเสนอที่อยากจะเรียกร้องรัฐบาลในระยะเร่งด่วนนี้ นพ.ชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มว่า จากที่ติดตามสถานการณ์ ผมขอเสนอแนวทางให้รัฐจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือ
ข้อ 1 ตอนนี้ในต่างประเทศอย่างอินเดีย มียาขายเป็นเม็ด เฉลี่ยเม็ดละ 10 บาท แต่ว่าขั้นตอนจะนำเข้ามานั้นต้องติดขั้นตอนข้อกฎหมาย การตรวจสอบมาตรฐานในประเทศ แต่ถ้าจะดีในสถานการณ์นี้ อย.ควรจะลดขั้นตอน ให้สามารถนำเข้ามาแบบเป็นเม็ดได้เลย โดยรัฐบาลสั่งซื้อแล้วเอาเครื่องบินไปรับเองก็ได้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วได้ทันท่วงที
ข้อ 2 ซื้อเคมีเข้ามา แต่ว่าต้องลดขั้นตอนการขึ้นทะเบียนยา ที่ผมสอบถามดู เค้าสามารถตอกปั้มยา จากเคมีนี้ 5 ล้านเม็ด ได้ใน 7 วันและแจกจ่ายไปทั่วประเทศไทยได้เลย ให้ยาไปรอคนไข้ ไปรอผู้ป่วย ให้นักรบเสื้อขาวได้มีอาวุธที่เอาไว้ไปต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป
ในฐานะแพทย์ เมื่อเห็นผู้ป่วยที่เรารักษา แต่เมื่อไม่ได้ยาอย่างทันท่วงที อาการผู้ป่วยลุกลามขึ้นแพทย์ก็รู้สึกเศร้าใจ ทำไมเราต้องมาเจอสถานการณ์อย่างนี้ แล้วทำไมรัฐบาลไม่ไปจัดซื้อมาให้เยอะเพื่อให้ รพ.แต่ละที่มียาเพียงพอ วัคซีนเหมือนเสื้อเกราะ แต่ ยาฟาวิพิราเวียร์ เหมือนลูกกระสุนปืน จะต่อสู้กับโรค อาวุธก็ต้องมีให้พร้อมด้วย นพ.ชัยวัฒน์ กล่าว
