มท.1 ขอลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานพลุระเบิด เผยไม่ใช่โรงงานเถื่อน เร่งหาสาเหตุแท้จริง

มท.1 ขอลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานพลุระเบิด เผยไม่ใช่โรงงานเถื่อน เร่งหาสาเหตุแท้จริง

วันที่ 18 ม.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกมธ.การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเรียกร้องให้แก้ระเบียบการขออนุญาตตั้งโรงงานผลิตพลุดอกไม้ไฟทั่วประเทศใหม่ หลังเกิดโรงงานพลุระเบิดหลายครั้ง ที่อาจจะอยู่นอกเหนือการตรวจสอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทยเอง เป็นผู้ที่ออกใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานด้วย ว่า กำลังเร่งศึกษาอยู่ เพราะกว่าจะได้ใบอนุญาตต้องผ่านขั้นตอนเยอะ โรงงานพลุที่ จ.สุพรรณบุรี ก็ใช้เวลา 2 ปี เพราะต้องขอใบอนุญาตจากหน่วยงานกระทรวงกลาโหม ในการนำวัตถุไวไฟ วัตถุคล้ายระเบิดที่ปะทุได้มาใช้ อีกทั้งการลงพื้นที่ช่วงบ่ายนี้ ตนจะไปดูว่าจุดเกิดเหตุ ที่ไม่ใช่โรงงานผลิตแต่เป็นโรงเก็บพลุ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา มีรั้วรอบขอบชิด แต่ทำไมถึงระเบิดได้ และทำไมถึงมีคนอยู่ในนั้นถึง 30 คน “ส่วนเรื่องใบอนุญาต เชื่อว่าได้มีการเขียนกำกับไว้ว่ามีข้อห้ามข้อปฏิบัติอย่างไรไม่ให้เกิดความเสี่ยง ตรงนี้อาจจะมีการทำอะไรที่นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้”

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่าจะมีการกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างไรนั้น นายอนุทิน เผยว่า จะไปโทษผู้ว่าฯ หรือเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เพราะโรงงานพวกนี้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ การกำชับผู้ว่าฯ ต้องดูในส่วนใบอนุญาต หรือพวกภูมิปัญญาชาวบ้าน อาจจะต้องสั่งห้าม เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ “ความจริงวิถีชีวิตชาวบ้านที่ทำพุ ตะไล ทำเพื่อไล่นกไล่กาที่จะมาทำลายผลผลิตทางการเกษตร แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่มีใบอนุญาตไม่สามารถทำได้แน่นอน ซึ่งจะต้องไปไล่ตรวจดู” อีกทั้ง ตอนนี้ทุกจังหวัดทำการสำรวจโรงงาน และตนได้รับรายงานหลายจังหวัดว่าได้ไปสำรวจโรงงานทำพลุ ทำดอกไม้ไฟ ทุกอย่างยังทำตามขั้นตอนและอยู่ในระเบียบ แต่กรณีนี้ส่วนตัวคิดว่า จะต้องมีอะไรที่ล้ำเรื่องความปลอดภัยอย่างแน่นอน ถึงเกิดเหตุรุนแรงได้ขนาด

นายอนุทิน กล่าวถึงการลงพื้นที่ช่วงบ่ายนี้ ว่า จะขอลงพื้นที่ให้เห็นกับตาตัวเอง และจะรับฟังรายงานว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นี่ไม่ใช่โรงงานเถื่อน เป็นโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตและมีการต่ออายุปีต่อปี นี่ต่อมา2 ปีแล้ว เปรียบเหมือนอาวุธปืน เวลาได้ใบอนุญาตก็จะต้องมีการต่อทุกปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรุงไทยนำเทรนด์! จับมืออินฟลูฯสายท่องเที่ยว สร้างปรากฏการณ์ TOURIST สู่ TOURICH ผ่าน Krungthai Travel Debit Card
สสจ.มุกดาหาร ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ "แอนแทรกซ์" เพิ่ม 1 ราย รอผลตรวจกลุ่มเสี่ยงอีก 3 ราย
TPIPL จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568
เพราะทะเลคือชีวิต ซีพีร้อยเรียงความดีผนึกชุมชน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 76 ล้านตัว สร้างความยั่งยืนให้ชายฝั่งตราด
ไม่รอด จนท.จับรถบรรทุกแตงกวา ยัดไส้ขน "แรงงานต่างด้าว" ชาวเมียนมา ลอบเข้าประเทศ
ศาลอุทธรณ์ให้ประกัน "ประยุทธ มหากิจศิริ" แล้ว วางหลักประกัน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ
แนะนำ 10 ศูนย์กายภาพบำบัดในกรุงเทพ 2025 เลือกที่ไหนดี
"สมศักดิ์ แสงสุริยา" กับเทคนิคเลี้ยงกุ้งให้รอด ณ สมุทรสงคราม
‘อธิบดีโยธาฯ’ มั่นใจแบบจำลองโมเดล พิสูจน์หาสาเหตุ ‘ตึกสตง.’ถล่มได้ คาด 90 วันรู้ผล
สนง.สลากฯ เปิดตัว ‘ยูนิฟอร์ม’ จำหน่ายสลาก N3 เพิ่มความสะดวกให้ผู้ซื้อ ยันไม่กระทบยอดขาย L6

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น