จีนรณรงค์ไม่ให้ประชาชนฉลองเทศกาลคริสต์มาส ส่งเสริมประเพณีดั้งเดิม จากความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลต่างประเทศ
ขณะที่ห้ามสรรพสินค้าตามเมืองใหญ่ๆของจีนไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ หรือฉงชิ่ง ต่างประดับไฟและต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์เพื่อต้อนรับนักช้อปอย่างคึกคัก แต่ในเวลาเดียวกัน หลายภาคส่วนต่างออกมารณรงค์ไม่ให้ประชาชนฉลองเทศกาลคริสต์มาส
ในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ ห้างสรรพสินค้าได้ออกประกาศของความร่วมมือให้ผู้เช่า ไม่ขายการ์ดหรือของขวัญที่เกี่ยวกับวันคริสต์มาส หรือแม้แต่งดการแขวนประดับตกแต่ง โดยกล่าวว่า ไม่ควรปฏิบัติตามประเพณีของต่างประเทศอย่าง สุ่มสี่สุ่มห้า และควรยึดมั่นในวัฒนธรรมของตนเอง
เช่นเดียวกับโรงเรียนหลายแห่งตั้งแต่เมืองตงก่วนทางตอนใต้ไปจนถึงฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือ โรงเรียนได้เรียกร้องให้นักเรียนและผู้ปกครอง ไม่ปฏิบัติตามประเพณีและวัฒนธรรมต่างชาติ โดยไม่ไตร่ตรอง
ในมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน สันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์สาขาท้องถิ่น ได้บอกให้สมาชิก เฉลิมฉลองเทศกาลระลึกถึงการต่อสู้ที่ทะเลสาบฉางจินแทน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อสู้ระหว่างกองทัพอาสาสมัครประชาชนจีน และกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามเกาหลี
ทั้งนี้จีนไม่ได้ห้ามการนับถือศาสนาคริสต์ แต่เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆที่ได้รับอนุญาต ศาสนาคริสต์จะต้องได้รับการจัดการและควบคุมอย่างเคร่งครัด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลจากต่างประเทศ และวันคริสต์มาสไม่ใช่วันหยุดราชการในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าเป็นศาสนาหลัก โดยในปี 2561 จีนเคยสั่งแบนการฉลองคริสต์มาสมาแล้ว ในเมืองหลางฝาง มณฑลเหอเป่ยทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง โดยทางการออกคำสั่งห้ามการจัดแสดงในที่สาธารณะ ในช่วงคริสต์มาส และรวมถึงห้ามขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับวันหยุดดังกล่าว เพื่อรักษาเสถียรภาพทางสังคม
นอกจากนี้จีนยังมีความพยายามที่จะส่งออกวัฒนธรรมจีน เช่น ประเพณีต่างๆ ในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิหรือวันตรุษจีน เพื่อแสดงให้เห็นซอฟท์พาวเวอร์ของจีนที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก