เศร้าเหยื่อรถทัวร์มรณะ เสียชีวิตรายที่ 15 หลังรักษาตัว 3 วัน อาการโคม่า สุดยื้อญาติรับร่างกลับชุมพร

เศร้าเหยื่อรถทัวร์มรณะ เสียชีวิตรายที่ 15 หลังรักษาตัว 3 วัน อาการโคม่า สุดยื้อญาติรับร่างกลับชุมพร

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถทัวร์โดยสารประจำทางกรุงเทพ-นาทวีเสียหลัก ลงไหล่ทางชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ บริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ กม.331+450 หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย และบาดเจ็บหลายราย ล่าสุดวานนี้ ( 9 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งราย เป็นผู้โดยสารชื่อ น.ส.มณฑิรา ดีมา หรือน้องแตงโม อายุ 29 ปี โดยญาติได้ไปรับศพกลับมาตั้งสวดอภิธรรมตามประเพณี ที่วัดประชานิคม 2 ต.คุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ขณะที่ญาติอีกหลายคนได้รอรับพร้อมจัดเตรียมสถานที่บริเวณวัดต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของน.ส.มณฑิรา ซึ่งก่อนเกิดอุบัติเหตุผู้เสียชีวิต น.ส.มณฑิรา ได้เดินทางไปร่วมงานศพของย่าพร้อมกับแม่ที่ จ.นครสวรรค์ ก่อนที่จะนั่งรถไปส่งแม่ที่ระยองและเดินทางต่อมาที่สถานีขนส่งสายใต้เพื่อที่เดินทางไปทำงานที่สงขลา

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนางพรทิพย์ อาจหาญ อายุ 58 ปี แม่ของน.ส.มณฑิรา เผยว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้กลับจากจังหวัดระยองและกำลังจะเดินทางไปจังหวัดสงขลาไปบ้านแฟน เพื่อไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ลูกสาวโทรมาบอกว่าขึ้นรถทัวร์แล้วนะตอน 2 ทุ่ม และสั่งให้แฟนรอรับที่สงขลา หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้ และตนทราบว่าเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ชนกับต้นพยอมใหญ่ ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว เพราะรายชื่อตามที่นั่งนั้นตรงกับคนตาย แต่สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าลูกสาวยังไม่ตาย เพราะคนที่ตายเป็นชาวเมียนมา คาดว่าเขาน่าจะสลับที่นั่งกัน ส่วนลูกสาวบาดเจ็บสาหัส ในตอนนั้นตนก็ยังมีความหวังว่าลูกสาวจะปลอดภัย แต่อาการโคม่า หายใจด้วยตัวเองไม่ได้และมีอาการคอหักซึ่งหมอพยายามยื้อชีวิตแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จสุดท้ายก็เสียชีวิต โดยรักษาตัวประมาณ 3 วัน ลูกสาวของตนก็จากไปอย่างสงบ ในขณะที่ตนเฝ้าลูกอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่พนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำโชเฟอร์ ตนได้ยินว่าก่อนเกิดเหตุโชเฟอร์น่าจะกินยาและหลับในและปล่อยมือจากพวงมาลัย ทำให้เกิดอุบติเหตุ

ทั้งนี้ อยากจะฝากถึงคนขับรถทัวร์ถ้าไม่พร้อมไม่มั่นใจก็ก็ไม่ควรขับ ถ้าง่วงก็จอดนอนก็ได้บอกผู้โดยสารหรือบอกทางบริษัทอย่าไปฝืนขับแบบนี้ ลูกสาวคนนี้เป็นลูกสาวคนสุดท้ายของตัวเองแล้วเพราะว่าเคยมีลูกสาว 1 คนก็เสียชีวิตไปแล้ว ลูกคนนี้มาเสียชีวิตอีกก็เท่ากับว่าตนเองไม่เหลือลูกแล้ว ที่ผ่านมาลูกก็ช่วยหาเงินมาดูแลตัวเองตลอดเพราะตัวเองก็ทำงานรับจ้างไม่ได้มีรายได้อะไรมากมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.บุกช่วย "นศ.สาว" ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข่มขู่ให้ "ขังตัวเอง" ลวงรีดเงิน "พ่อ-แม่" 4.5 แสน
ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น