ตำรวจทางหลวง ออกสำรวจเส้นทาง ที่มีขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน เกือบทุกวัน

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ

จนกระทั่งวันที่ ( 7 ธันวาคม 2566 ) เวลาประมาณ 10.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.อ.ธีระยุทธ วันโสภา รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง,ด.ต.วิชัย ตามสมัย,ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ได้สำรวจเส้นทาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม.สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA REVO สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผข-8608 พิษณุโลก ขับขี่ผ่านมา เมื่อเห็นรถยนต์ตรวจการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถคันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าซอยข้างทาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถยนต์ติดตามไป พร้อมกับส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณภายในซอยริมทางสาธารณะ กม.55-56 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ

ข่าวที่น่าสนใจ

เบื้องต้นพบนายธีรเดช แซ่ซ้ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเขที่ 0/89 หมู่ที่ 7 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA REVO สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผข-8608 พิษณุโลก โดยมีผู้โดยสารนั่งมาด้วยในรถจำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตัวเพื่อสอบปากคำ ที่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม.อีกครั้ง พบว่าผู้โดยสาร 2 คน เป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีนไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดง

จากการตรวจสอบจากระบบสารสนเทศ (PIBIC) ของ สตม.พบว่า ไม่พบการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด ส่วนอีก 2 คน จากการตรวจสอบจากระบบสารสนเทศ (PIBIC) ของ สตม. พบว่า นายหนิงเจียนปิง หนังสือเดินทางหมายเลข EK9041725 อายุ 36 ปี สัญชาติ จีน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยวันที่ 10 สิงหาคม 2566 อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึง 24 สิงหาคม 2566 ซึ่งการอนุญาตสิ้นสุดลงแล้วเป็นเวลา 105 วัน และ นายฉือตรงเจี๊ย หนังสือเดินทางหมายเลข EK7227210 อายุ 23 ปี สัญชาติ จีน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยวันที่ 10 สิงหาคม 2566 อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึง 24 สิงหาคม 2566 ซึ่งการอนุญาตสิ้นสุดลงแล้วเป็นเวลา 105 วัน โดยทั้ง 2 คนนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว

จากการสอบถามนายธีรเดช แซ่ซ้ง ผู้ขับขี่ ให้การยอมรับว่า วันนี้ (7 ธันวาคม 2566) เวลาประมาณ 04.00 น. ได้รับการประสานจากชายไทยชื่อ เม้ง (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ซึ่งเป็นเพื่อนประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวจำนวน 4 คน ที่บริเวณปั้มน้ำมัน อ.เมืองตาก จ.ตาก เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ ห้องสรรพสินค้า BigC อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท/ครั้ง โดยนายธีรเดช แซ่ซ้ง รับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงานต่างด้าวทั้ง 4 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ ทำแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง

สอบถามผู้โดยสารต่างด้าวชาวจีน ผ่านล่ามแปลภาษาจีนให้การยอมรับว่า ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหานายธีรเดช แซ่ซ้ง ผู้ขับขี่ ฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนผู้โดยสารต่างด้าวชาวจีน 2 คนแรก ฐาน“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ผู้โดยสารต่างด้าวชาวจีน 2 คน ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จากนั้นควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าว TOPNEWS ภาคกลาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจทางหลวงจับขบวนการลักลอบขนแรงานต่างด้าวผิดกฏหมาย

ตำรวจทางหลวง ออกสำรวจเส้นทาง ที่มีขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน เกือบทุกวัน