รอยเตอร์ส, AFP, BBC และ The Times of Israel รายงานว่านายอันโตนิโอ กูเตเรส เลขาธิการสหประชาชาติได้ยื่นจดหมายถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือ UNSC เมื่อวานนี้ (พุธที่ 6 ธค.) โดยมีเนื้อหาว่าเขาได้ประกาศใช้อำนาจในมาตรา 99 ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎหมายแม่บทของกฎบัตรสหประชาชาติเป็นครั้งแรก ขอให้ UNSC มีมติให้อิสราเอลหยุดยิงอย่างถาวรในกาซา พร้อมระบุว่าระบบมนุษยธรรมในกาซากำลังตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรงที่จะล่มสลาย และว่าสถานการณ์ในกาซาขณะนี้เลวร้ายลงอย่างรวดเร็วเข้าสู่ความหายนะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของชาวปาเลสไตน์และทั้งภูมิภาค และว่าประชาคมโลกมีความรับผิดชอบที่จะใช้อิทธิพลในการยับยั้งความหายนะไม่ให้เกิดขึ้น
นายสเตฟาน ดูจาริก โฆษกยูเอ็นออกมากล่าวว่าการประกาศใช้อำนาจมาตรา 99 ของเลขาธิการยูเอ็นถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี และเป็นครั้งแรกของกูเตเรส ถือเป็นการกดปุ่มเตือนภัยคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น และอยู่ในอำนาจของเลขาฯยูเอ็นที่สามารถประกาศใช้ได้เมื่อรู้สึกว่ากำลังเกิดภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพโลก
ด้านนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐปฎิเสธที่จะออกความเห็นในเรื่องนี้ โดยบอกว่าสหรัฐจะพูดคุยกับกูเตเรสและสมาชิก UNSCE
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายออกมาขานรับมาตรา 99 ของเลขาฯยูเอ็นทันที รวมทั้งนายริยาด มานซูร์ ทูตปาเลสไตน์ประจำยูเอ็น ซึ่งกล่าวว่าตัวเขาและรัฐมนตรีชาติอาหรับอีกหลายชาติจะเดินทางไปสหรัฐในวันนี้เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว และว่ามาตรการหยุดยิงในกาซาจะต้องเกิดขึ้นโดยทันที เช่นเดียวกับนายเทดดรอส อัดฮานอม ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก, นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน, และโจเซฟ บอร์เรล ผู้อำนวยการนโยบายต่างประเทศของอียู ที่เรียกร้องชาติสมาชิกอียูให้สนับสนุนมาตรา 99 ของเลขาธิการยูเอ็น
อย่างไรก็ตาม นายเอลี โคเฮน รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลออกมาโต้กลับและตำหนิการใช้อำนาจมาตรา 99 ของกูเตเรสว่าเป็นอันตรายต่อสันติภาพโลก และถือเป็นการสนับสนุนและเห็นชอบกับฮามาสในการสังหารและทารุณชาวอิสราเอล
ทั้งนี้มติของ UNSC จะมีผลบังคับใชัได้จะต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 9 เสียง ไม่นับรวมเสียงโหวตจาก 5 ชาติสมาชิกถาวรคือสหรัฐ, จีน, รัสเซีย, ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร